แอลพีจีเอ ทัวร์ เผยโปรแกรมปี 2024 เงินรางวัลพุ่งสูงมากสุดประวัติศาสตร์

มอลลี มาร์คูซ์ ซามาน์ ประธานบริหารแอลพีจีเอ ทัวร์

แอลพีจีเอ ทัวร์ ประกาศโปรแกรมฤดูกาล 2024 ทางการออกมาแล้ว มี 35 รายการ (33 รายการทางการของทัวร์) มีรายการใหม่ 3 รายการ เพื่อให้นักกอล์ฟหญิงชั้นนำของโลกร่วมแข่งขันชิงเงินรางวัลรวม 118 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 4,130 ล้านบาท มากที่สุดในประวัติศาสตร์ทัวร์ เพิ่มจากปี 2021 สูงถึง 69 เปอร์เซ็นต์

โปรแกรมการแข่งขันในปี 2024 นี้จะแข่งขันใน 15 รัฐของสหรัฐอเมริกา และอีก 10 ประเทศรวมทั้ง 2 ช่วงในเอเชีย เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม และอีกช่วงในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ยังมีรายการใหม่มีเพิ่มเข้ามา 3 รายการ โดยเริ่มต้นฤดูกาลที่รัฐฟลอริดา 2 รายการในเดือนมกราคมก่อนจะข้ามมาเอเชียรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ที่ประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ ก่อนจะไปสิงคโปร์ และไปที่จีนต้นเดือนมีนาคม จากนั้นกลับไปสหรัฐอเมริกา

ฤดูกาลหน้ามีการแข่งชันทั้งหมด 35 รายการ ชิงเงินรางวัลรวม 118 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 4,130 ล้านบาท แต่เป็นรายการทางการของแอลพีจีเอ ทัวร์ 33 รายการ เงินรางวัลรวมรวม 116.55 ล้านเหรียญ หรือราว 4,079.25 ล้านบาท โดยที่ปี 2024 นี้ เงินรางวัลรวม เป็นจำเงินที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของแอลพีจีเอ ทัวร์ เมื่อย้อนกลับไปในปี 2021เงินรางวัลรวม 70 ล้านเหรียญ ทำให้เพิ่มขึ้นถึง 69 เปอร์เซ็นต์

มอลลี มาร์คูซ์ ซามาน์ ประธานบริหารแอลพีจีเอ ทัวร์ เผยว่า "โปรแกรมแอลพีจีเอ ทัวร์ฤดูกาล 2024 เป็นสิ่งที่ให้เห็นถึงการเติบโตของทัวร์เรา ด้วยการมีรายการใหม่ และพิสูจน์ถึงกการพัฒนา การเพิ่มประสบการณ์นักกีฬา การเข้าถึงคนทั่วโลก และความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมอย่างไม่เคยมีมาก่อน ฤดูกาลนี้เราได้เฉลิมฉลองการเดินทางของกอล์ฟสตรี เรารอคอยการแข่งขันที่ตื่นเต้น และช่วงเวลาแห่งความทรงจำสำหรับแฟน ๆ ทั่วโลก"

นักกอล์ฟหญิงที่ดีที่สุดในโลกจะร่วมประชันวงสวิงล่าเงินรางวัลมากยิ่งกว่าเดิม โดยรายการที่มีเงินรางวัลรวมอย่างน้อย 3 ล้านเหรียญมากเป็นสถิติ 16 รายการ รวมทั้ง 10 รายการที่ไม่ใช่เมเจอร์ และรายการที่ไม่ใช่ทางการของทัวร์ซึ่งเพิ่มจากปี 2023 ถึง 4 รายการ ขณะที่เมื่อปี 2021 แค่รายการเดียวเท่านั้น และมี 4 รายการที่เพิ่มเงินรางวัลขึ้นเป็น 3 ล้านเหรียญในปี 2024 คือ รายการมิซึโอ อเมริกา โอเพ่น เพิ่มจาก 2.75 ไปเป็น 3 ล้านเหรียญ, รายการมายเออร์ แอลพีจีเอ คลาสสิก เพิ่งจาก 2.5 ไปเป็น 3 ล้านเหรียญ, รายการวอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปียนชิพ เพิ่มจาก 2.3 ไปเป็น 3 ล้านเหรียญ และ รายการลอตเต แชมเปียนชิพ เพิ่มจาก 2 ไปเป็น 3 ล้านเหรียญ ขณะที่ รายการซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ ได้ประกาศก่อนแล้วจะเพิ่มจาก 7 ล้านเหรียญไปเป็น 11 ล้านเหรียญ

และยังมีรายการที่เพิ่มเงินรางวัลขึ้นอีกในปีหน้าทั้ง รายการเซรี พัก แอลเอ โอเพ่น เพิ่มจาก 1.75 ไปเป็น 2 ล้านเหรียญ, รายการ แอลพีจีเอ แมทช์ เพลย์ เพิ่มจาก 1.5 ไปเป็น 2 ล้านเหรียญ, รายการพอร์ทแมลนด์ คลาสสิก เพิ่มจาก 1.5 ไปเป็น 1.75 ล้านเหรียญ และ รายการซีพีเคซี วีเมนส์ โอเพ่น เพิ่มจาก 2 ไปเป็น 2.6 ล้านเหรียญ

สำหรับรายการเมเจอร์ เริ่มต้นในเดือนเมษายน รายการเชฟรอน แชมเปียนชิพ ที่เดอะ วูดแลนด์ส รัฐเท็กซัส ตามด้วย รายการยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น ในเดือนพฤษภาคม ที่แลนแคสเตอร์ คันทรี คลับ รัฐเพนซิลเวเนีย  จากนั้นรายการเคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปียนชิพ ที่ซีแอทเทิล ในเดือนมิถุนายน ก่อนจะไปรายการเอวิยอง แชมเปียนชิพ ที่ประเทศฝรั่งเศส และ เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น ที่เซนต์แอนดรูวส์ สกอตแลนด์

ส่วนรายการสุดท้ายแห่งปีซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ ที่ทีบูรอน กอล์ฟ คลับ รัฐฟลอริดา จะเพิ่มเงินรางจาก 7 ล้านดอลาร์ไปเป็น 11 ล้านเหรียญ โดยแชมป์จะได้รับมากถึง 4 ล้านเหรียญ และนักกอล์ฟที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันใน 60 คน นั้นจะได้รับอย่างน้อย 500,000 เหรียญ

นอกจากนี้ ในปี 2024 นักกอล์ฟของแอลพีจีเอ ทัวร์มีโอกาสจะได้แข่งขันให้กับประเทศตัวเอง ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปารีส เกมส์ 2024 ที่เลอ กอล์ฟ นาซิยงนาล ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 8-11 สิงหาคม ซึ่งสามปีที่แล้ว เนลลี คอร์ดา นักกอล์ฟทีมชาติสหรัฐอเมริกาคว้าเหรียญทองให้กับประเทศของเธอ ที่โตเกียว เกมส์ ประเทศญี่ปุ่น

และยังมี รายการกอล์ฟทีมโซลไฮม์ คัพ ระหว่างสหรัฐอเมริกา และยุโรปจะแข่งขันที่เกนส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมิริกา ในเดือนกันยายน รวมทั้ง รายการพิเศษเดอะ แกรนท์ ธอมทัน อินวิเทชันแนล เป็นรายการทีมผสมของแอลพีจีเอ และ พีจีเอ ทัวร์ แข่ขันที่เนเพิลส์ รัฐฟลอริดา ในเดือนธันวาคม ชิงเงินรางวัลรวม 4 ล้านเหรียญ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม