"ชเนตตี"คว้าโทรฟี่ใบที่ 2 เพลย์ออฟไทยวีเมนส์ สนามฟีนิกซ์ฯ

คุณจรรยา สว่างจิตร (ซ้าย) นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรีไทย มอบถ้วยแชมป์ให้ โปรพราว ชเนตตี วรรณแสน จากเชียงใหม่ จากการแข่งขัน เอสเอที ทีดับเบิ้ลยูที โอเพ่น 2022 โร้ด ทู เวิลด์ แรงกิ้ง ณ สนามฟีนิกซ์ โกลด์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ แบบพาร์ 72 ระยะ 6,328 หลา จ.ชลบุรี เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565

พัตต์ระยะ 7 ฟุต รับโทรฟี่ และเงินรางวัลอีก 367,500 บาท โปรพราว ชเนตตี วรรณแสน นักกอล์ฟสาววัย 18 ปีจากเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จอีกเป็นครั้งที่สอง ไทยวีเมนส์ทัวร์ 2022 ปิดเกมส์แต้มเสมอ 9 อันเดอร์พาร์ 135 และเพลย์ออฟโหดถึง 4 รอบ ในการแข่งขันรายการ เอสเอที ทีดับเบิ้ลยูที โอเพ่น โร้ด ทู เวิลด์ แรงกิ้ง ระหว่างวันที่ 22-26 มิถุนายน 2565 เล่นแบบสโตรกเพลย์ ชิงเงินรางวัลรวม 2.5 ล้านบาท สนามฟีนิกซ์ โกลด์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ แบบพาร์ 72 ระยะ 6,328 หลา จ.ชลบุรี วันสุดท้ายฝนทำพิษตั้งแต่เช้าส่งผลให้ทีออฟล่าช้า จนต้องตัดสินกันเพียง 36 หลุมเท่านั้น

รายการนี้เก็บคะแนนสะสมเงินรางวัลรวม ออเดอร์ ออฟ เมอริท ไทยวีเมนส์ทัวร์ ประจำปี 2022-2023 เป็นแมตช์ที่ 3 จาก 10 รายการสู่การคิดคะแนนสะสมโลก ชิงเงินรางวัลรวม 2.5 ล้านบาท แชมป์รับเงินรางวัล 367,500 บาท ระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายน 2565 เล่นสโตรกเพลย์ 3 วัน 54 หลุม แต่เนื่องจากสภาพฝนตกหนักตั้งแต่เช้าตรู่ยาวนานร่วม 6 ชั่วโมงส่งผลให้นักกอล์ฟที่เล่นไม่จบจากรอบวันที่สองเพื่อเล่นให้ครบ 36 หลุมต้องออกสตาร์ทล่าช้าและเวลาที่เหลือไม่เพียงพอต่อการเล่นให้จบ 54 หลุมตามกำหนด ทำให้คณะกรรมการผู้ตัดสินต้องประกาศใช้ผลการแข่งขันจากการเล่นเพียง 36 หลุม ปรากฏว่าบนลีดเดอร์บอร์ด มีผู้นำร่วมสกอร์เท่ากัน 9 อันเดอร์พาร์ 135 สองคนเป็น โปรพราว ชเนตตี วรรณแสน สวิงสาววัย 18 ปีจากเชียงใหม่ และ โปรชะเอม ษมาพร แข็งขันธ์ นักกอล์ฟวัย 23 ปีจาก จ.เลย ต้องตัดสินด้วยการเล่นเพลย์ออฟ โฮล บาย โฮล ที่หลุม 18 พาร์ 4 ครั้งนี้ คุณจรรยา สว่างจิตร นายกสมาคมฯ และ พล.ท.ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ ประธานที่ปรึกษาอาวุโส สมาคมฯ ร่วมให้กำลังใจกับนักกอล์ฟทั้งสองถึงขอบสนาม ท่ามกลางเสียงเชียร์ของบรรดาเพื่อนๆโปรร่วมทัวร์ อย่างสนุกสนาน

เกมส์การเล่นเพลย์ออฟ โฮลบายโฮล ที่หลุม 18 พาร์ 4 ระยะ 383 หลา สองรอบแรกเซฟพาร์เสมอด้วยกัน และกรรมการการได้เจาะหลุมในตำแหน่งใหม่ รอบที่สามทั้งคู่ยังเสมอกันอีก ต้องลุ้นกันอีกเป็นรอบที่สี่ทั้ง 2 คนทีชอตอยู่กลางแฟร์เวย์ โดยที่ โปรพราว เล่นชอตสองขึ้นกรีนห่างหลุมระยะ 7 ฟุต ขณะที่ โปรชะเอม ขึ้นกรีนลูกตกทางด้านขวาของกรีนและต้องพัตต์ไกลราว 25 ฟุต โปรชะเอม พัตต์เกาะหลุม เปิดโอกาสให้ โปรพราว ที่ยืนในตำแหน่งใกล้กว่าปิดเกมส์นี้ด้วยแชมเปี้ยนชิพพัตต์เป็นเบอร์ดี้ระยะ 7 ฟุตได้สำเร็จ รับเงินรางวัล 367,500 บาท นับเป็นแชมป์รายการที่ 2 ใน ไทยวูเม้นส์ทัวร์ และเป็นแชมป์ รายการที่ 7 ในปีนี้ของสาวเชียงใหม่ ขณะที่ ษมาพร ที่คว้าอันดับ 2 รับเงินรางวัลไป 223,440 บาท โดยมี อาภิชญา ยุบล นักกอล์ฟสาวจากสระบุรี คว้าอันดับ 3 สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 136 รับเงินรางวัล 149,940 บาท

แชมป์จากเชียงใหม่ สตาร์ทปีนี้ด้วยการทำ 3 แชมป์จากศึก ไทยแลนด์ มิกซ์ฯ คว้า 2 แชมป์ในศึก ไทย แอลพีจีเอ ทัวร์ กับอีก 1 แชมป์จาก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เนชั่นเนล ควอลิฟาย และถือเป็นแชมป์ใบที่ 2 ของ ไทยวีเมนส์ทัวร์ เผยถึงการกลับมาคว้าแชมป์ที่สนาม ฟีนิกซ์ อีกครั้งว่า "ดีใจที่คว้าแชมป์รายการนี้สำเร็จ และถือเป็นคว้าแชมป์ที่สนามแห่งนี้เป็นหนที่สอง ยอมรับว่าก่อนเล่นเพลย์ออฟมีมือสั่น แต่หลังจากผ่านการเล่นรอบแรกทำให้คลายความกดดันไปได้ และนี่ถือเป็นการชนะเพลย์ออฟในฐานะมืออาชีพครั้งแรกด้วย และสร้างความมั่นใจก่อนเดินทางไปแข่งขันยังต่างประเทศ"

นอกจากนี้แล้วยังมีการประกาศรางวัลอื่นๆให้กับนักกอล์ฟที่เข้ามาร่วมการแข่งขันด้วย รางวัลโฮลอินวันเป็นของ นภัส

วรรณ ผาบสิมมา นักกอล์ฟสมัครเล่นที่ทำได้ในรอบแรกที่หลุม 13 ระยะ 171 หลาจาก ไฮบริด ขณะที่นักกอล์ฟสมัครเล่นผลงานดีที่สุดเป็นของ ภัทรรัตน์ รัตนสุวรรณ ที่ทำสกอร์รวมเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 140 พร้อมกับรางวัลพิเศษ รางวัลแต่งกายดีเด่น เป็นของ โชติกา ศุภภิญโญ รางวัลคัมแบ็คยอดเยี่ยม เป็นของ พรรณรายณ์ มีสมอรรถ ที่ขยับขึ้นมาถึง 37 อันดับ รางวัลยอดไลค์ และแชร์ เป็นของ ภัทราพร ศรีภัทรประสิทธิ์ รางวัลสปอร์ตแมนชิพ เป็นของ พัชรจุฑา คงกระพันธ์

ด้านคุณจรรยา เผยถึงความสำเร็จในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ว่า "เราได้รับคำชื่นชมจากผู้เล่น และแฟนกอล์ฟเป็นอย่างมาก และนี่เป็นอีกกำลังใจสำคัญในการจัดการแข่งขันต่อไปของสมาคม ซึ่งเรามีส่วนสนับสนุนให้ทุกๆคนได้พัฒนา พร้อมเป็นก้าวสำคัญไปสู่ทัวร์ที่ใหญ่ขึ้น และความสำเร็จในระดับอาชีพเช่นเดียวกับนักกอล์ฟหลายๆคนที่ประสบความสำเร็จในขณะนี้"