แอลพีจีเอ ทัวร์ สูญเสียหนึ่งในผู้ก่อตั้งแล้วด้วยวัย 94 ปี
เชอร์ลี่ สปอร์ค หนึ่งใน 13 ผู้ก่อตั้ง แอลพีจีเอ ทัวร์ เสียชีวิตลงแล้วอย่างสงบด้วยวัย 94 ปี |
เชอร์ลี่ สปอร์ค หนึ่งใน 13 ผู้ก่อตั้งการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรี แอลพีจีเอ ทัวร์ ไปเสียชีวิตแล้วด้วยวัย 94 ปี หลัง 2 สัปดาห์ก่อนเพิ่งจะถูกเสนอชื่อให้อยู่ในหอเกียรติยศของ แอลพีจีเอ โดยเธอจากไปอย่างสงบ ณ บ้านที่ ปาล์ม สปริงส์, แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเธออาศัยอยู่ในตลอดตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 90
ปอร์ค นับเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟหญิงผู้ก่อตั้งการแข่งขัน แอลพีจีเอ ทัวร์ แต่เธอกลับไม่เคยสัมผัสตำแหน่งแชมป์เลย โดยผลงานดีที่สุดของเธอคือการคว้าอันดับ 2 ในการแข่งขัน แอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 1962 ณ สนามสตาร์ดัสต์ คันทรี คลับ ที่ ลาส เวกัส ก่อนที่จะผ่านชีวิตตลอด 70 ปีในการรับหน้าที่ในทัวร์ และสอนการเล่นกอล์ฟ
เธอเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง "แอลพีจีเอ ทีชชิ่ง แอนด์ คลับ โปร ดิวิชั่น" ซึ่งตอนนั้นมีสมาชิกเพียงแค่ 6 คน ก่อนที่ในปัจจุบันจะมีสมาชิกในทัวร์มากกว่า 1,700 คนทั่วโลก โดยป้าสปอร์ค กล่าวก่อนได้รับการเสนอชื่อติด หอเกียรติยศของ แอลพีจีเอ ทัวร์ ร่วมกับ ลอเรน่า โอชัว เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนว่า "การได้รับเสนอชื่อเข้าในหอเกียรติยศ มันเป็นอะไรที่ทรงเกียรติมากที่สุดของการเป็นนักกอล์ฟอาชีพแล้ว เพราะต้องไต่เต้าสร้างชื่อเสียงมากมายจนกว่าจะมาถึงจุดสูงสุดได้ ฉันหวังว่าตัวเองจะได้นั่งบนจุดสูงสุดนั้นซักครั้งในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และสนุกกับมัน"
สปอร์ค อาศัยในบ้านที่ ปาล์ม ดีเซิร์ต, แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเธอมาปรากฏตัวในการแข่งขัน เมเจอร์แรกของปีที่ มิสชั่น ฮิลล์ส ในการแข่งขัน เชฟรอน แชมเปี้ยนชิพ และเข้าร่วมชมการแข่งขันรายการ ฟาวน์เดอร์ส คัพ ที่มักจะเชิญนักกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่มาร่วมจับมือ และโชว์ลีลาบนสนามบนกรีนหลุม 18 ด้วย
แคร์รี่ เว๊บบ์ หนึ่งในนักกอล์ฟที่คว้า 5 แชมป์รายการเมเจอร์ กล่าวถึง สปอร์ค ว่า "มันมีหลายสิ่งที่ฉันคิดถึงเกี่ยวกับ เชอร์ลี่ แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันประทับใจก็คือการสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ และอยู่กับเกมกอลฟเสมอมา ตอนที่เธอมาชมการแข่งขัน แอลพีจีเอ เธอมักจะเห็นเธอในสนามดูบรรดาเด็กสาวๆ ทำความรู้จักกับพวกเธอ และมอบเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยให้กับพวกเธอไม่หนึ่งก็สองอย่าง"
สปอร์ค เติบโตใกล้เมือง ดีทรอยต์ และเริ่มเล่นกอล์ฟตั้งแต่จับพัตเตอร์ได้ โดยเธอร่ำเรียนกับโปรในสนามกอล์ฟ บอนนี่ บรู้ค ก่อนจะมอบไม้ 3, 5, 7 และ 9 ให้กับเธอ ก่อนจะเริ่มคว้าชัยชนะระดับรัฐ เธอยังคว้าแชมป์กอล์ฟในระดับคอลเลจในปี 1947 ก่อนจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย อีสเทิร์น มิชิแกน
วันที่ 6 พ.ค. 1950 ขณะที่กำลังสอนในโรงเรียนประถมที่เมือง ดีทรอยต์ สปอร์ค ตัดสินใจเทิร์นโปร และกลายเป็นหนึ่งใน 13 นักกอล์ฟรุ่นบุกเบิกที่เซ็นสัญญาเป็นส่วนหนึ่งของ แอลพีจีเอ ทัวร์ โดยขณะที่ยังทำการแข่งขัน สปอร์ค ก็ยังรับหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนกอล์ฟเช่นเดิม ก่อนจะผันตัวเข้ามารับหน้าที่นักกอล์ฟอาชีพเต็มตัวในการแข่งขัน แอลพีจีเอ ทีชชิ่ง ดิวิชั่น ปี 1959 และได้รีบการเลือกให้คุณครูแห่งปีขของ แอลพีจีเอ ทัวร์ 2 ปี และการจากไปของเธอทำให้เหลือเพียงแค่ มาร์ลีน แฮกจ์ คนเดียวที่ยังคงเป็นหนึ่งใน 13 สมาชิกรุ่นก่อตั้งที่ยังมีชีวิตอยู่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น