แม็คไกวร์ รับแชมป์ แอลพีจีเอ ไดร์ฟ ออนฯ แพ๊ตตี้ คว้าที่ 4 ร่วม

เลโอน่า แม็คไกวร์ นักกอล์ฟสาวจากไอร์แลนด์ กับถ้วยแชมป์ แอลพีจีเอ ไดร์ฟ ออน แชมเปี้ยนชิพ ที่จารึกชื่อเป็นแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ ชาวไอริชคนแรก ในการแข่งขันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 6 ก.พ.2565 ตามเวลาประเทศไทย

เลโอน่า แม็คไกวร์ สวิงสาวจากไอร์แลนด์ ทำแต้มเข้ามาดีสุด 18 อันเดอร์พาร์ 198 รับแชมป์กอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ แอลพีจีเอ ไดร์ฟ ออน แชมเปี้ยนชิพ ในการแข่งขันที่ประเทศสหรัฐ เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 6 ก.พ.2565 รับถ้วยพร้อมเงินรางวัล 225,000 เหรียญสหรัฐ (7.2 ล้านบาท) และเป็นแชมป์แรกในทัวร์ของเธอ พร้อมบันทึกประวัติศาสตร์ว่าเป็นสาวไอริชคนแรกที่คว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ด้วย ด้านสวิงสาวไทย โปรเหมียว ปภังกร ธวัชธนกิจ ทำผลงานเข้ามาดีสุดด้วยอันดับ 4 ร่วมที่สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 203

รายการนี้แข่งขันระหว่างวันที่ 3-5 ก.พ.2565 ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (48 ล้านบาท) ณ สนามกอล์ฟ คราวน์ โคโลนี่ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ที่ ฟอร์ท ไมเยอร์ส, ฟลอริด้า แบบพาร์ 72 ระยะ 6,592 หลา โดยมี 8 นักกอล์ฟสาวไทย อาทิเช่น 2 พี่น้องจุฑานุกาล โปรโม-โมรียา, โปรเม-เอรียา, โปรแหวน พรอนงค์ เพชรล้ำ, โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ, โปรแจน วิชาณี มีชัย, โปรเมียว ปาจรีย์ อนันต์นฤกาล, โปรเหมียว ปภังกร ธวัชธนกิจ และ โปรจีน อาฒยา ฐิติกุล

จบรอบสุดท้าย เลโอน่า แม็คไกวร์ นักกอล์ฟสาวจากไอร์แลนด์ บันทึกประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟจากไอร์แลนด์คนแรกที่คว้าแชมป์ใน แอลพีจีเอ ทัวร์ และเป็นแชมป์ในทัวร์รายการแรกของเธอด้วย นับตั้งแต่เทิร์นโปรในปี 2018 หลังรอบนี้เธอทำสกอร์เพิ่มเข้ามาอีก 5 อันเดอร์พาร์ 67 ทำสกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์ 198 รับถ้วยแชมป์ พร้อมเงินรางวัล 225,000 เหรียญสหรัฐ (7.2 ล้านบาท)

เลโอน่า เผยหลังจบการแข่งขันว่า "มันเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ และการรอคอยที่ยาวนานมันจบลงเสียที และบอกตรงๆแทบไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะเกิดขึ้น จนกระทั่งพัตต์ลงในหลุมสุดท้าย มันเป็นอีกวันที่พยายามเล่นกอล์ฟอย่างอดทนมากที่สุด พยายามอยู่กับตัวเองให้มากที่สุด และพยายามไม่ดูตัวเลขใดทั้งสิ้น ซึ่งมันเป็นแชมป์ที่้เกิดขึ้นมาจากตัวเอง และรู้สึกภูมิใจอย่างมากกับแนวทางการเล่นของตัวเองในวันนี้"

เลกซี่ ทอมป์สัน นักกอล์ฟสาวชาวอเมริกัน คว้าอันดับ 2 แม้ว่าพยายามทำแต้มไล่กวด รอบสุดท้ายเธอทำเพิ่มเข้ามาอีก 7 อันเดอร์พาร์ 65 ทำสกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 201 รับเงินรางวัลไป 138,527 เหรียญสหรัฐ (4.4 ล้านบาท) โดยมี ซาร่าห์ ชเมลเซล สวิงเพื่อนร่วมชาติเข้ามาในอันดับ 3 ที่สกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 202 รับเงินรางวัล 100,492 เหรียญสหรัฐ (3.2 ล้านบาท) ขณะที่ โปรเหมียว ปภังกร ธวัชธนกิจ เป็นสาวไทยที่ผลงานดีสุดหลังรอบนี้ทำเพิ่มเข้ามาอีก 5 อันเดอร์พาร์ 67 สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 203 รับอันดับ 4 ร่วมกับ หลิน ซิหยู จากจีน แบ่งเงินรางวัลไปคนละ 54,379 เหรียญสหรัฐ (1.7 ล้านบาท)

ด้านสาวไทยคนอื่น โปรจีน อาฒยา ฐิติกุล เก็บเพิ่มอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 จากรอบสุดท้ายสกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 205 คว้าอันดับ 11 ร่วม, โปรจัสมิน สุวัณณะปุระ รับอันดับ 30 ร่วมจากผลงานรวม 7 อันเดอร์พาร์ 209 โปรเมียว ปาจรีย์ อนันต์นฤกาล คว้าอันดับ 41 ร่วมจากผลงานรวม 5 อันเดอร์พาร์ 211 โปรแจน วิชาณี มีชัย สกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 212 อันดับ 53 ร่วม โปรแหวน พรอนงค์ เพชรล้ำ และ โปรโม โมรียา จุฑานุกาล สกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 213 รับอันดับ 59 ร่วม ขณะที่ โปรเม เอรียา จุฑานุกาล สกอร์รวม 2 อันเดอร์พาร์ 214 อันดับ 66 ร่วม

รายการต่อไปของศึก แอลพีจีเอ ทัวร์ จะหยุดไปจนถึงต้นเดือน มี.ค. ระหว่างวันที่ 3-6 มี.ค.นี้ กับการแข่งขันรายการ เอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (54.4 ล้านบาท) ที่จะข้ามโลกมาแข่งขันกันที่ประเทศสิงค์โปร์ ณ สนาม เซนโตซ่า กอล์ฟ คลับ, ตันหยง คอร์ส แบบพาร์ 72 ระยะ 6,718 หลา