โปรเหมียว รั้งที่ 7 ร่วม นอร์ดควิสต์ รับแชมป์สวิง เอไอจี วีเมนส์ฯ

ปภังกร ธวัชธนกิจ เป็นสาวไทยที่ผลงานดีสุดหลังคว้าอันดับ 7 ร่วมในศึก เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น ที่ประเทศสก๊อตแลนด์ เมื่อช่วงดึกวันอาทิตย์ที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย พร้อมรับรางวัล เดอะ โรเล็กซ์ อันนิก้า เมเจอร์ อวอร์ด ประจำปี 2021 จากผลงานอันยอดเยี่ยมใน 5 รายการเมเจอร์ปีนี้

โปรเหมียว ปภังกร ธวัชธนกิจ สวิงสาวไทย คว้าอันดับ 7 ร่วมจากการแข่งขันกอล์ฟรายการ เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น 2021 ที่ประเทศสก๊อตแลนด์ เมื่อช่วงดึกของวันอาทิตย์ที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย พร้อมคว้าตำแหน่ง เดอะ โรเล็กซ์ อันนิก้า เมเจอร์ อวอร์ด ประจำปี 2021 โดยแชมป์รายการนี้ตกเป็นของ แอนนา นอร์ดควิสต์ สวิงสาวจากสวีเดน ที่รับแชมป์เมเจอร์รายการที่ 3 สำเร็จ หลังทำสกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 276 เฉือนชนะ จอร์เจีย ฮอลล์, มาเดลีน แซคสตรอม และ ลิเซตต์ ซาลาส แต้มเดียว

รายการนี้นับเป็นแมตช์เมเจอร์ส่งท้ายซีซั่น ซึ่งปีนี้ชิงเงินรางวัลรวม 5.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (185.6 ล้านบาท) พร้อมกับชิงแต้มในอันดับ เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ 625 คะแนน แข่งขัน ณ สนามกอล์ฟ คาร์นุสตี้ ลิ้งค์ คอร์ส แบบพาร์ 72 ระยะ 6,850 หลา แข่งขันระหว่างวันที่ 19-22 ส.ค.นี้ ซึ่งจะมีนักกอล์ฟลงสนามทั้งสิ้น 144 ราย 

หลังจบการแข่งรอบสุดท้าย ผลปรากฏว่า "โปรเหมียว" ปภังกร ธวัชธนกิจ นักกอล์ฟสาวมือ 13 ของโลกจากไทย โชว์ฟอร์มในรอบสุดท้ายด้วยการทำเพิ่มเข้ามาอีก 5 อันเดอร์พาร์ 67 จากผลงาน 7 เบอร์ดี้ 2 โบกี้ โดยเฉพาะการทำ 4 เบอร์ดี้ติดจากหลุม 11-14 ทำสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 279 คว้าอันดับ 7 ร่วม รับเงินรางวัลไป 154,918 เหรียญสหรัฐ (4.9 ล้านบาท) พร้อมกันนั้นทำให้เธอทำให้คะแนนสะสมแซง เนลลี่ คอร์ด้า โปรสาวชาวอเมริกันไป 2 แต้ม คว้ารางวัลเดอะ โรเล็กซ์ อันนิก้า เมเจอร์ อวอร์ด ประจำปี 2021 และกลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่สองที่คว้ารางวัลนี้ต่อจาก "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล ทำได้เมื่อปี 2018 ด้านผู้เล่นสมัครเล่นที่ทำสกอร์ต่ำสุดเป็นของ หลุยส์ ดันแคน สวิงสาวชาวสก๊อตแลนด์ ที่ทำสกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 281 คว้าถ้วยรางวัลเกียรติยศไปครอง

รางวัลนี้ตั้งชื่อให้เกียรติกับ อันนิก้า โซเรนสตัม ตำนานนักกอล์ฟสาวชาวสวีเดน เพื่อมอบให้กับนักกอล์ฟที่สร้างผลงานดีในรายการเมเจอร์ทั้ง 5 รายการ ได้แก่
แอนนา นอร์ดควิสต์ 
เอเอ็นเอ อินสไปเรชั่น, วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ, ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น,เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ และ วีเมนส์ บริติช โอเพ่น(ปัจจุบันคือ วีเมนส์ โอเพ่น) โดยเริ่มมีรางวัลนี้มาตั้งแต่ปี 2014 โดย โปรเหมียว ทำแต้มสะสมไป 80 คะแนน เฉือนชนะ เนลลี่ คอร์ด้า สวิงมือ 1 ของโลกไปแค่ 2 แต้ม โดยจะเข้ารับรางวัลนี้ในงานประกาศรางวัลประจำปีของแอลพีจีเอ ทัวร์ ระหว่างแข่งขันรายการซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ รายการสุดท้ายปิดฤดูกาล ที่รัฐฟลอริด้า ในกลางเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งเธอยังมีโอกาสจะคว้ารางวัลนักกอล์ฟรุกกี้แห่งปีอีกด้วย โดยคะแนนนำอันดับ 1 มี 970 คะแนน รวมทั้งนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีอยู่อันดับ 2 ตามหลัง เนลลี่ คอร์ด้า

โปรเหมียว เผยว่า "ดีใจมากกับผลงานของตัวเองในวันนี้ รู้สึกว่าตีเหล็กดี และพัตต์ได้ดีกว่าทุกๆวัน ทำให้สกอร์ดีขึ้นกว่าทุกๆวัน อีกอย่างด้วยการเป็นการเล่นในรายการนี้เป็นหนที่ 2 ของตัวเองด้วย ยอมรับว่าสนามยาก และท้าทายมากๆ ไม่ว่าจะมีลมหรือไม่มีลมก็ตาม"

แชมป์รายการนี้ตกเป็นของ แอนนา นอร์ดควิสต์ สวิงสาวจากสวีเดน ที่รอบสุดท้ายหวดเพิ่มเข้ามาอีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 จากผลงาน 4 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ ทำสกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 276 รับแชมป์รายการนี้ไปด้วยการเฉือนชนะ จอร์เจีย ฮอลล์ จาก อังกฤษ, มาเดลีน แซคสตรอม สวิงเพื่อนร่วมชาติ และ ลิเซตต์ ซาลาส ไปแค่สโตรคเดียว รับแชมป์เมเจอร์รายการที่ 3 ให้ตัวเองสำเร็จ พร้อมเงินรางวัล 870,000 เหรียญสหรัฐ (27.8 ล้านบาท)

หลุยส์ ดันแคน
ด้านสวิงสาวไทยคนอื่นๆ โปรโม-โมรียา จุฑานุกาล หวดเพิ่มเข้ามาอีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 ทำสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 280 รับอันดับ 9 คว้าเงินรางวัลไป 129,855 เหรียญสหรัฐ (4.1 ล้านบาท) ขณะที่ โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล คว้าอันดับ 10 ร่วมจากผลงานรวม 7 อันเดอร์พาร์ 281 รับเงินรางวัล 113,635 เหรียญสหรัฐ (3.6 ล้านบาท) ขณะที่ วิชาณี มีชัย คว้าอันดับ 24 ร่วมจากสกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 284 รับเงินรางวัล 58,203 เหรียญสหรัฐ (1.8 ล้านบาท) ด้าน อาฒยา ฐิติกุล คว้าอันดับ 48 จากผลงานรวม 2 โอเวอร์พาร์ 290 รับเงินรางวัล 21,491 เหรียญสหรัฐ (687,712 บาท) ขณะที่ โปรเมียว ปาจรีย์ อนันต์นฤการ คว้าอันดับ 52 ร่วมจากผลงานรวม 3 โอเวอร์พาร์ 291 รับเงินรางวัล 18,691 เหรียญสหรัฐ (598,112 บาท)

สำหรับรายการต่อไปของกอล์ฟหญิง จะเป็นการแข่งขันประเภททีมในศึก โซลไฮม์ คัพ ซึ่งจะเป็นการพบกันระหว่างทีมสหรัฐ ที่จะพบกับทีมรวมดารายุโรป โดยปีนี้จะแข่งขันกันที่ประเทศสหรัฐ ณ สนามอินเวอร์เนสส์ คลับ แบบพาร์ 71 ระยะ 6,434 หลา ในเมือง โตเลโด้, รัฐไอดาโฮ โดยที่ผ่านมาทีมสหรัฐมีสถิติเอาชนะไปถึง 10 ครั้ง ขณะที่ทีมยุโรปคว้าชัยชนะไปเพียงแค่ 6 ครั้ง โดยการพบกันหลังสุดเมื่อปี 2019 ทีมยุโรป เอาชนะทีมสหรัฐ ไปด้วยคะแนนรวม 14 แต้มครึ่ง ต่อ 13 แต้มครึ่ง




ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม