โปรเมียว จากบทเรียนสู่แชมป์แอลพีจีเอคนที่ 5 ของไทย
นับตั้งแต่ปี 2019 ที่ตัดสินใจตบเท้าเข้าสู่เวที แอลพีจีเอ ทัวร์ ของ "โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ เธอใช้เวลา 2 ปีในการไล่ล่าความสำเร็จในการคว้าแชมป์แรกมาได้กับการแข่งขัน ไอเอสพีเอส ฮันดะ เวิลด์ อินวิเตชั่นเนล เมื่อต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และกลายเป็นสาวไทยคนที่ 5 ตามหลัง "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล, "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล, "โปรจูเนียร์" จัสมิน สุวัณณะปุระ และ "โปรเหมียว" ปภังกร ธวัชธนกิจ ที่คว้าแชมป์ใน แอลพีจีเอ ทัวร์
สาวไทยคนที่ 5 ที่คว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ |
กับผลงานการเล่น และสถิติ ในช่วงหลังที่ผ่านมา มันแสดงให้เห็นว่า โปรเมียว มีพัฒนาการที่ก้าวกระโดด โดยเฉพาะในเรื่องความสม่ำเสมอที่มีมากขึ้น โดยปีนี้ลงเล่นไปแล้ว 16 รายการ ไม่ผ่านตัดตัวเพียงแค่ 2 รายการเท่านั้น และนับตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ไม่พลาดในการผ่านตัดตัวเลย 11 รายการติด ติดท๊อป 30 ไปแล้วถึง 8 รายการ และ 3 รายการหลังสุดก็ติดท๊อป 10 มาโดยตลอด
ร่วมยินดีกับแชมป์ |
นอกจากนั้นในเรื่องสถิติ ปาจรีย์ ยังมีสถิติติดท๊อป 10 ถึง 3 ประเภท ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนการทำเบอร์ดี้ (อันดับ 7 จากสถิติ 195 ครั้ง), จำนวนหลุมที่ทำสกอร์ต่ำกว่าพาร์ (อันดับ 6 จาก 200 หลุม) และ เปอร์เซ็นต์ในการเซฟแต้มจากหลุมทราย (อันดับ 3 คิดเป็น 62.30%)
โปรจีน อาฒยา ฐิติกุล (ซ้าย) และ โปรเมียว ปาจรีย์ อนันต์นฤการ |
ก่อนที่เธอจะคว้าแชมป์ ไอเอสพีเอส ฮันดะ เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า "ได้เรียนรู้อะไรมากมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการเล่นในศึก เมเจอร์สุดท้าย เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ ที่คว้าอันดับ 10 ร่วม หลัง 2 รอบแรกทำสกอร์เข้ามา 12 อันเดอร์พาร์ 130 ก่อนจะมาพลาดทำเกิน 1 ทำให้หลุดจากกลุ่มนำไป นอกจากนั้นการได้ร่วมหวดกับ อี มินจี สวิงสาวชาวออสเตรเลีย สายเลือดเกาหลีใต้ ที่ท้ายที่สุดเธอคว้าแชมป์รายการนี้ไป โปรเมียว ยอมรับว่าได้แง่คิดอะไรมากมายจากการเล่นร่วมกับ โปรสาวจากออสเตรเลีย โดยเฉพาะในเรื่องการเล่นอย่างอดทน เชื่อมั่นใจแผนการเล่นของตัวเอง ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด และควบคุมได้ ซึ่ง โปรเมียว ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่เธอพยายามเรียนรู้มาโดยตลอด เพราะตัวเองเป็นคนใจร้อน ซึ่งพอมาเห็น มินจี เล่นแล้วทำให้ได้แง่คิดที่ดีๆมากมายในการผ่านสถานการณ์ต่างๆอย่าง อดทน มีสมาธิกับทุกๆชอต
นอกจากนั้น โปรเมียว ก็ยอมรับว่าได้อยู่ในแวดล้อมโปรสาวไทยที่ต่างเป็นแรงบันดาลใจ และเป็นแบบอย่าง ไม่ว่าจะเป็น "โปรเม" เอรียา และ "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล หรือว่าเพื่อนสนิทอย่าง "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล ที่เป็นเพื่อนร่วมทีมชาติเก่า รวมถึงบรรดารุ่นพี่ๆโปรสาวไทยที่เล่นใน แอลพีจีเอ ทัวร์ ร่วมกัน ที่ทำให้ โปรเมียว ยอมรับว่าบรรยากาศในทัวร์ และการแข่งขันเป็นไปอย่างอบอุ่น และสบายใจ
พร้อมเดินหน้าสร้างความสำเร็จต่อไป |
โปรเมียว ยังพูดถึง โปรจีน ที่ปัจจุบันเล่นใน เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ และกำลังเตรียมตบเท้าเข้าสู่ แอลพีจีเอ ทัวร์ ว่า "เมียว กับจีน คุ้นเคยกันมาตั้งแต่สมัยยังเป็นนักกอล์ฟเยาวชนทีมชาติร่วมกัน แม้ว่าช่วงหลังเราต่างคนต้องแข่งขันกันคนละทัวร์ แต่พอได้มาเจอกัน และลงเล่นร่วมกัน มันทำให้เกิดความรู้สึกที่ดี ทำให้นึกถึงสมัยเก่าๆของเรา ดีใจทุกครั้งที่ได้เจอกัน"
ขณะที่ โปรจีน เองพูดถึง โปรเมียว ด้วยเช่นกันว่า "สนิทกับ พี่เมียว มาก และจีน นับถือพี่เมียวเป็นพี่สาวคนหนึ่งเลย ดีใจมากๆที่เห็นพี่เค้าประสบความสำเร็จ และถือว่าพี่เป็นแบบอย่างที่ดีในการไม่ยอมแพ้ และทุ่มเทพยายามจนทำสำเร็จในที่สุด"
โปรเมียว ซอบจะเขียนคำว่า "Good Luck" ไว้บนลูกกอล์ฟของตัวเอง ซึ่งโปรสาวไทยวัย 22 ปี เผยว่า "บางครั้งเราเองก็ต้องการอะไรที่จะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้กับตัวเอง จึงตัดสินใจเขียนคำว่า "Good Luck" บนลูก เพื่อเป็นความหมายในเชิงบวกให้กับตัวเอง โดยเฉพาะในการเล่นรอบสุดท้ายของตัวเอง ที่ต้องเจอกับปัญหาที่หลุม 6 ที่ต้องเสีย ทริปเปิ้ลโบกี้ ทำให้ได้คิดว่า ตัวเองโชคดี ที่เอาชนะมาได้"
โปรเมียว เอาชนะ เอมมา ทัลลี่ย์ ของ สหรัฐ ในการดวลเพลย์ออฟ 2 รอบ กล่าวว่า "ยอมรับว่าประหลาดใจมากที่ตัวเองคุมสติได้ดีแบบนั้น และมีสมาธิในการพัตต์ลงหลุมได้ ทั้งที่ตื่นเต้นมากๆในสถานการณ์นั้น ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ดี บวกกับการที่เราเองพยายามอย่างเต็มที่ และมุ่งมั่นทำให้คว้าชัยชนะในท้ายที่สุด"
นอกจากนั้นสิ่งที่พิเศษสำหรับ โปรเมียว อีกอย่างก็คือการที่รายการนี้เธอคว้าแชมป์ต่อหน้า คุณพ่อ วีระพล อนันต์นฤการ ที่ได้มาเชียร์ลูกสาวข้างสนามในรายการนี้ด้วย ซึ่ง โปรเมียว ยอมรับว่า "คุณพ่ออยู่ข้างๆกับ เมียว เสมอตั้งแต่เริ่มต้นการเล่น การได้แบ่งบันความสำเร็จร่วมกับคุณพ่อเป็นอะไรที่วิเศษอย่างมาก และ พูดอะไรไม่ออกเลย แต่ก็อยากจะขอบคุณกับทุกๆกำลังใจ ทุกการสนับสนุนจากทุกๆคนที่เชื่อมั่นในตัวเมียว คงจะไม่มีเมียวในวันนี้หากไม่มีการสนับสนุน และกำลังใจที่มีให้"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น