2 แพทย์เผยข้อมูลจาก การ์มิน ช่วยสนับสนุนการรักษา
นายแพทย์ แอนดรูว์ อัน (ซ้าย) และ นายแพทย์ สิระ กอไพศาล ออกมายืนกรานว่าข้อมูลด้านสุขภาพจาก นาฬิกา การ์มิน มีส่วนช่วยอย่างมากในการรักษาได้อย่างทันท่วงที
นายแพทย์ แอนดรูว์ อัน และ นายแพทย์ สิระ กอไพศาล ออกมายอมรับว่าข้อมูลที่ได้รับจากนาฬิกา การ์มิน มีส่วนช่วยอย่างมากในการสนับสนุนการรักษาทางการแพทย์ให้เป็นไปในทันท่วงที เผย 5 ตัวชี้วัดด้านสุขภาพของสมาร์ทวอทช์บนข้อมือ ตัวช่วยเฝ้าระวังความผิดปกติแบบต่อเนื่อง เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว
ทั้งนี้ทาง การ์มิน ตอกย้ำในความมั่นใจด้านการติดตามสุขภาพกับ 4 จุดเด่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการให้ข้อมูล 5 ตัวชี้วัด ค่าออกซิเจนในเลือด (Pulse Ox Blood Sensors, อัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Tracking), การนอนหลับ (REM Sleep Monitoring), อัตราการหายใจ (Respiratory Tracking), ระดับความเครียด (Stress Monitoring) ที่จำเป็นได้ครบถ้วน พร้อมกับแบตเตอรี่ที่ทรงพลัง มอนิเตอร์สุขภาพได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง และความแม่นยำด้วยการตรวจจับความเปลี่ยนแปลงแบบวินาทีต่อวินาที อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายที่หลากหลายครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมมอนิเตอร์ความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ส่งเสริมการสร้างภูมิคุ้มกันอย่างถูกวิธี หนึ่งความตั้งใจสำคัญที่ต่อยอดจากความสำเร็จของแคมเปญ #BeatTodayTogether พร้อมตอกย้ำแบรนด์ เมสเสจ Every Beat of Life – นวัตกรรมที่ก้าวทันทุกจังหวะของชีวิต
นพ. แอนดรูว์ อัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการแพทย์และรังสีวิทยา โรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด เผยว่า "ผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการชัดเจนในตอนแรก แม้ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ อุปกรณ์ของการ์มินที่สามารถติดตามและแจ้งระดับออกซิเจนในเลือดได้ตลอด 24 ชั่วโมงนั้น ช่วยได้มากในยามวิกฤตเช่นนี้ เพราะนอกจากระดับออกซิเจนในเลือดแล้ว การ์มินยังสามารถตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอดทั้งวัน แม้ในขณะนอน เพื่อกำหนดคุณภาพการนอนหลับและความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ และตัวชี้วัดด้านสุขภาพต่างๆ เหล่านี้ยังทำหน้าที่ได้อย่างดี การรู้เท่าทันความผิดปกติเหล่านี้ยังช่วยลดโอกาสในการแพร่ระบาดหรือการติดต่อในวงกว้างได้ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส"
นพ. สิระ กอไพศาล อายุรแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญโรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า "การมีข้อมูลด้านสุขภาพระยะยาวนั้นมีค่ามากสำหรับการวินิจฉัยโรค เพราะเมื่อคุณหมอทราบถึงแพทเทิร์นด้านสุขภาพที่เป็นปกติของผู้ป่วยแล้ว ก็จะสามารถรู้ได้ทันทีว่าสุขภาพผู้ป่วยเริ่มผิดปกติไปตั้งแต่เมื่อไรและผิดปกติไปจากเดิมมากน้อยเพียงใด ในขณะที่ร่างกายยังไม่แสดงอาการแต่เราสามารถรู้ได้ก่อน นั่นแปลว่าเราสามารถร่นระยะเวลาการรักษาได้มากขึ้น และเมื่อข้อมูลถึงมือแพทย์ แพทย์ยังมั่นใจและวินิจฉัยได้แม่นยำเพื่อการรักษาที่ตรงจุดและทันท่วงที เพราะการรักษาคนไข้สิ่งที่ยากที่สุด คือการวินิจฉัยโรค ถ้าเรารู้เร็วรู้ไว โอกาสเสียชีวิตของคนไข้ก็จะน้อยลง"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น