นายกอุ้ม ลั่นพร้อมพาสวิงอาชีพสตรีสู่สากลกับก้าวสู่ปีที่ 14
"นายกอุ้ม" กฤษดา ตัณฑ์วิไล นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ให้คำมั่นพร้อมพาสมาคมก้าวสู่ปีที่ 14 เพื่อพาสมาคมไปสู่ความเป็นสากล ในวาระครบรอบปีที่ 13 ในการก่อตั้งสมาคมในวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา |
"บิ๊กอุ้ม" กฤษดา ตัณฑ์วิไล นายกสวิงอาชีพสตรี ประกาศพร้อมสานต่อแนวทางพัฒนาวงการกีฬากอล์ฟสตรี มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพนักกีฬากอล์ฟไทย สู่เส้นทางสร้างกอล์ฟอาชีพสตรีไทยในระดับสากล เนื่องในวันฉลองครบรอบปีที่ 13 ในการก่อตั้งสมาคมเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา
ตลอด 13 ปี สมาคมได้มีการพัฒนานักกอล์ฟและวงการกอล์ฟสตรีของไทยมาตลอด ตั้งแต่จัดตั้งสมาคมเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2551 โดยมี ดร. สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ทำหน้าที่นายกคนแรก ต่อมาปี 2555 คุณปฏิญญา ควรตระกูล เข้าดำรงตำแหน่งก็มีการพัฒนาเรื่อยมา มีการจัดการแข่งขันในรูปแบบนานาชาติ โดยมีการร่วมมือกับ สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรีจากทัวร์ต่างชาติ ในปี 2559 ได้จัดแข่งแซงค์ชั่น กับออสเตรเลียนแอลพีจีเอ ในรายการ ไทยแลนด์ แอลพีจีเอ มาสเตอร์ส 2016 ต่อมาในปี 2560 ได้มีการแข่งขันไตรแซงค์ชั่นขึ้น โดยมี ไทยแอลพีจีเอ ออสเตรเลียนแอลพีจีเอ และ ไชน่าแอลพีจีเอ ถือเป็นครั้งแรกของการแข่งขัน ที่เป็นการรวมตัวของ สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรีของภูมิภาค จนกระทั่งปี 2563 คุณกฤษดา ตัณฑ์วิไล ได้ดำรงค์ตำแหน่งนายกสมาคมฯ คนที่ 3 จนกระทั่งปัจจุบันคุณกฤษดา กล่าวว่า "ปี 2564 สมาคมได้ดำเนินงานมา 13 ปี จากแนวคิดที่ต้องการพัฒนาวงการกอล์ฟสตรีของไทย ให้นักกีฬากอล์ฟอาชีพสตรีได้มีพื้นที่แสดงฝีมือและพัฒนาศักยภาพผ่านการแข่งขัน อีกทั้งยังมีการพัฒนาด้านต่างๆ ผ่านการแข่งขันให้มีมาตรฐานทั้งในระดับประเทศ และเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เป็นการสร้างโอกาสให้กับนักกีฬากอล์ฟอาชีพสตรีของไทย ตามวัตถุประสงค์ของสมาคมที่ตั้งไว้""ปัจจุบัน สมาคมฯ ยังคงยกระดับมาตรฐานให้เทียบเท่าสากล ได้มีการปรับรูปแบบของทัวร์และการแข่งขันที่ผ่านมา ปีนี้ สมาคมฯ ได้วางตารางการแข่งขัน จำนวน 10 รายการ ประกอบด้วย การแข่งขันแชมเปี้ยนชิพ 8 รายการ การแข่งแมทช์เพลย์ 1 รายการ และ การแข่งขันปิดฤดูกาลแมตช์มาสเตอร์ส รวมทั้งพัฒนาเรื่องของสนามแข่งขัน การมีส่วนร่วมของชุมชนรอบข้างสนามแข่งขัน การเพิ่มมูลค่าผู้สนับสนุน ให้เกิดมูลค่าทางการตลาดมากที่สุด ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ อีกทั้งสมาคมยังให้ความสำคัญกับบุคลากรในวงการกอล์ฟสตรีของไทย ด้วยการจัดงานเชิดชูเกียรติ มอบรางวัล Thai LPGA Awards ที่ทางสมาคมฯ จัดงานขึ้นหลังจากจบฤดูกาล เพื่อประกาศเกียรติคุณสู่สาธารณชน ซึ่งถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ ให้เกิดความมุ่งมั่นสู่การพัฒนาศักยภาพที่จะทำให้กอล์ฟอาชีพสตรีของไทย ก้าวไปอย่างยั่งยืน และเพื่อเป็นการยกระดับการแข่งขัน การพัฒนานักกีฬา รวมทั้งทำให้เกิดการพัฒนาผู้เล่นภายในทัวร์""โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล สวิงสาววัย 18 ปีจาก ราชบุรี เจ้าของแชมป์ 5 รายการจากการแข่งขันเมื่อปี 2563 และกวาดรางวัลมากมายทั้งในฐานะนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี, รุคกี้แห่งปี, มือทำเงินรางวัลสูงสุด และสถิติเฉลี่ยดี่สุด กล่าวว่า "ปีที่ผ่านมาได้เข้าร่วมแข่งขันในไทยแอลพีจีเอ ทัวร์ ทั้งปี ได้สัมผัสความอบอุ่น ความเป็นครอบครัวภายในทัวร์ ทั้งนายกสมาคมฯ ทีมงาน และนักกีฬา ขอขอบคุณ ไทยแอลพีจีเอ ทัวร์ ที่เป็นอีกหนึ่งสมาคมที่มาพัฒนานักกอล์ฟสตรีไทย ให้มีโอกาสในการเล่น มีโอกาสในการพัฒนาตัวเอง และอยากให้ไทยแอลพีจีเอ ทัวร์ มีการจัดการแข่งขันดีๆ ให้เกิดขึ้น และอยู่เคียงข้างนักกอล์ฟผู้หญิงของไทยไปตลอด"
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 บิ๊กบอสสวิงอาชีพสตรี กล่าวว่า "การระบาดในระลอกใหม่ถือว่าน่าน่ากังวลมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดการแข่งขันของสมาคมฯ หลังมีการประกาศโปรแกรมแข่งขันไปแล้ว เราก็ได้มีการปรึกษากันแล้วว่าเห็นตรงกันที่จะต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป เพราะเรื่องของความปลอดภัยของทุกคนถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อีกทั้งมาตรการในการป้องกันที่ผ่านมาของสมาคมในปีที่ผ่านมา ก็ถือเป็นกีฬาอาชีพชนิดแรกที่ได้จัดการแข่งขัน ซึ่งเราก็ได้มีการประสานงานกับหลายหน่วยงานตลอดมา สำหรับการแข่งในปีนี้เราก็ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะมีการประกาศออกมาเป็นระยะๆ"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น