อดีตมือ 1 โลกถูกปรับตกรอบหลังไม่เซ็นชื่อในสกอร์การ์ด

เจิ้ง หยาหนี อดีตมือ 1 ของโลกชาวไต้หวัน ถูกปรับตกรอบในศึก แอลเอ โอเพ่น หลังไม่เซ็นชื่อบนสกอร์การ์ดของตัวเอง เมื่อจบการแข่งขันในรอบแรก

เจิ้ง หยาหนี อดีตสวิงสาวมือ 1 ของโลก ชาวไต้หวัน ตกเป็นข่าวหลังถูกปรับให้ตกรอบ หรือ ดิสควอลิฟาย จากการแข่งขันกอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ ฮูเกล-แอร์ พรีเมีย แอลเอ โอเพ่น ที่แข่งขันกันที่ ลอส แองเจลลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายหลังจากไม่เซ็นชื่อบนสกอร์การ์ดของตัวเอง ในการแข่งขันรอบแรกที่ วิลเชียร์ คันทรี่ คลับ

เจิ้ง ตกเป็นข่าวภายหลังประกาศรีเทิร์นสู่ แอลพีจีเอ ทัวร์ อีกครั้ง หลังไม่ได้ลงแข่งตั้งแต่จบการแข่งขัน ล๊อตเต้ แชมเปี้ยนชิพ 2019 โดยปีนี้เธอลงเล่นไปแล้วทั้งสิ้น 4 รายการ ซึ่งอดีตแชมป์ 15 รายการ ยังไม่เคยผ่านการตัดตัวเลยซักครั้ง ก่อนล่าสุดสวิงสาววัย 32 ปี ถูกปรับให้ตกรอบตั้งแต่รอบแรก ภายหลังจากที่เธอไม่ได้เซ็นชื่อลงบนสกอร์การ์ดของตัวเอง

โฆษกของ แอลพีจีเอ ทัวร์ เผยในคำแถลงการณ์ว่า "มันเป็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนมาตรฐานในการตรวจสอบสกอร์การ์ด และพบว่ามีการละเลยที่จะมีการเซ็นลายเซ็นของเธอบนสกอร์การ์ด ซึ่งเป็นระเบียบที่จะต้องมีปฏิบัติเป็นปรกติ ดังนั้นจึงไม่มีการรับรองผลการแข่งขันได้ ตามกฏข้อที่ 3.3 บี (2) ซึ่งระบุว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้เล่นในการรับรองคะแนนของตนเอง"

ทาง แอลพีจีเอ ไม่สามารถที่จะยืนยันผลสกอร์ของ เจิ้ง ได้ว่าเธอทำผลงานไปเท่าไร และนี่นับเป็นรายที่ 2 ของฤดูกาลนี้ และเป็นหนที่ 3 ในรอบ 5 เดือนหลัง ที่มีการตัดสิน ปรับให้ตกรอบ ของศึก แอลพีจีเอ ทัวร์ ในการไม่เซ็นชื่อบนสกอร์การ์ดตามกฏข้อที่ 3.3 บี (2) ภายหลังจากที่ หลิว หยู สวิงสาวจากจีน ไม่เซ็นชื่อของเธอบนสกอร์การ์ดในการแข่งขันรอบแรกของศึก เพลิแกน วีเมนส์ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน อิน จี ชุน สวิงสาวจากเกาหลีใต้ ก็ถูกปรับตกรอบ หลังไม่เซ็นชื่อบนสกอร์การ์ดตัวเองหลังจบรอบสองศึก เกีย คลาสสิค เมื่อเดือนที่แล้ว