สนามกอล์ฟทรัมป์จ่อขาดทุนปีที่ 8 ติดต่อกัน

สนาม ทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นเนล สก๊อตแลนด์ เตรียมขาดทุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 หลังจากรายการด้านการตลาดเผยถึงยอดประกอบการหลังจบปี 2019
รายการด้านการตลาดล่าสุดจากทาง สก๊อตแลนด์ เผยว่า สนามกอล์ฟ "ทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นเนล สก๊อตแลนด์" ที่ประเทศสก๊อตแลนด์ ของอดีตท่านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของ สหรัฐ จ่อเค้าที่จะต้องเจอกับตัวเลขสีแดงเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน ซึ่งคิดเป็นตัวเลขคาดว่าน่าจะราวๆ 1.1 ล้านปอนด์ (ราวๆ 44 ล้านบาท) หลังจากที่เปิดทำการมากว่า 15 ปี

ผลการตรวจสอบบัญชีครอบคลุมตลอด 12 เดือน จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่ครอบคลุมถึงถึงการหยุดชะงักของธุรกิจอันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา แม้ว่ารีสอร์ทสุดหรูของท่านอดีตประธานาธิบดี จะนับเป็นหนึ่งในสุดยอดรีสอร์ทระดับโลก แต่ก็ยังคงพึ่งพาเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย ที่ตัวเองเป็นคนจัดหามากกว่า 40.61 ล้านปอนด์ (1,624.4 ล้านบาท)

นอกจากนี้ยังคงเป็นหนี้อีก 3.63 ล้านปอนด์ ให้กับบริษัทแม่อย่าง ดีเจที โฮลดิ้ง แอลแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือครองอสังหาริมทรัพย์ระหว่างประเทศของ องค์กร ทรัมป์ ซึ่งมีเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.1 ล้านปอนด์จากในปีที่แล้ว ในที่สุด บริษัท นี้เป็นเจ้าของโดยความไว้วางใจของผู้ให้ทุนจากรัฐนิวยอร์กที่ตั้งขึ้นตามชื่อของ ทรัมป์

แม้ว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายต่อปี 3.27 ล้านปอนด์ แต่ผลประกอบการทางการเงินหมายความว่ารีสอร์ท ทรัมป์ ที่เมือง บัลเมดี้ มีผลขาดทุนสะสมมากกว่า 10.5 ล้านปอนด์ จากการตรวจสอบบัญชีเมื่อปี 2018 เผยว่า ทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นเนล สก๊อตแลนด์ มีผลขาดทุน 1.07 ล้านปอนด์ โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 2.76 ล้านปอนด์ ในขณะนั้นมีพนักงาน 77 คน ขณะที่บัญชีล่าสุดมีจำนวนพนักงานอยู่ที่ 84 คน

ผ่านมาแล้ว 15 ปี นับตั้งแต่ ทรัมป์ ซึ่งกลายเป็นที่รู้จักทางโทรทัศน์ผ่านรายการ เรียลิตี้ทีวี ก่อนที่จะตัดสินใจขยายธุรกิจของตัวเองไปบ้านเกิดของมารดา (สก๊อตแลนด์) ด้วยการก่อตั้ง "องค์กรทรัมป์" ก่อนที่สนาม ทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นเนล สก๊อตแลนด์ จะก่อตั้งขึ้นในปี 2005 โดยมีแผนที่จะทำเป็นรีสอร์ทพักผ่อนในปีต่อมา ก่อนจะได้รับการอนุมัติก่อสร้าง ท่ามกลางความขัดแย้งของรัฐบาลสก็อตในปี 2008 สนามกอล์ฟเปิดให้บริการในอีกสี่ปีต่อมา ซึ่งได้มีการแสดงเอกสารว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายของเขา และ อัลเล่น ไวส์เซลเบิร์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการเงินของ องค์กรทรัมป์ ในการควบคุมบริษัทที่ อเบอร์ดีนเชียร์

จากรายงานของผู้อำนวยการองค์กร เอริค ทรัมป์ ที่รับบทบาทรองประธานบริหารของ องค์กรทรัมป์ กล่าวว่า ผลกระทบของ โควิด-19 ต่อธุรกิจและผลลัพธ์ทางการเงินของรีสอร์ทจะขึ้นอยู่กับ "ระยะเวลาและการแพร่กระจาย" ของ การระบาดโรค แม้ว่าจะออกมาเน้นย้ำถึงความสามารถในการทำกำไรว่าจะได้รับผลกระทบเชิงบวกในระยะยาวอันเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานเพื่อจัดการกับความเสี่ยงเหล่านี้

15 เดือน หลังจากที่ บริษัทของ ทรัมป์ ชนะในการถกเถียงในการก่อสร้างที่พักอาศัยสุดหรูที่จะทำการพัฒนาที่อยู่ติดกับรีสอร์ทซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ทรัมป์ เอสเตต" ซึ่งมีแผนงานที่จะทุ่มเงินมากกว่า 147 ล้านปอนด์ ในการก่อสร้างบ้านพักมากกว่า 500 หลัง และบ้านตากอากาศในวันหยุดอีก 50 ยูนิต ซึ่งแม้ว่าจะได้รับอนุญาตก่อสร้างได้ แต่ช่วงเวลา และอนาคตในการพัฒนาก็ยังไม่ชัดเจน โดยที่ ทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นเนล สก๊อตแลนด์ เองก็ปฏิเสธที่จะตอบข้อซักถามของบรรดาประชาชนชาวสก๊อตแลนด์ เมื่อระยะแรกของการพัฒนารูปแบบหมู่บ้านจะเสร็จสิ้น ว่าจะมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมบริเวณชายฝั่งมากแค่ไหน

รายงานของ เอริค ทรัมป์ ยังระบุว่า "ข้อเสนอ และข้อซักถาม" ในความเป็นไปได้ในการจะดำเนินการต่อไป ซึ่งก็มีการยืนยันแล้วถึงจุดแข็งของความสนใจด้านการตลาดที่มีที่ท่าที่จะพัฒนาขึ้น แม้ว่าในเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา "เนเชอร์สก๊อต" (NatureScotฉ หน่วยงานด้านธรรมชาติของสกอตแลนด์ ประกาศว่าเนินทรายชายฝั่งที่รีสอร์ทของ ทรัมป์สร้างขึ้น บางส่วนได้ทำฟลายสภาพแวดล้อม และเสี่ยงที่จะถูกทำลาย


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม