คิม เซ-ยอง หวังสร้างผลงานยอดเยี่ยมต่อไปใน แอลพีจีเอ

คิม เซ-ยอง สวิงสาวกางเกงแดง จากเกาหลีใต้ ยอมรับว่าหวังสร้างผลงานสุดยอดต่อในศึก แอลพีจีเอ ทัวร์ หลังปีที่ผ่านมาทะยานตัวเองสู่มือ 2 ของโลก หลังซิวแชมป์ เมเจอร์แรก ให้ตัวเองเมื่อ ต.ค.ที่ผ่านมา ประกาศตั้งเป้าทาบชั้นสวิงระดับตำนานร่วมชาติอย่าง ปัค เซ-รี และ ปาร์ค อิน-บี

คิม เซ-ยอง สวิงสาวชาวเกาหลีใต้ ออกมาเผยหวังตัวเองจะพยายามสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมต่อไปในศึก แอลพีจีเอ ทัวร์ หลังจากล่าสุดเพิ่งจะซิวแชมป์เมเจอร์แรกให้ตัวเองเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งเผยว่าอยากจะพาชื่อของตัวเองเทียบชั้นระดับตำนานอย่าง ปัค เซ-รี และ ปาร์ค อิน-บี ให้ได้


คิม เจ้าของ "กางเกงแดง" ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของเธอไปแล้ว เผยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว "เดอะ โชซอน อิลโบ" ของ เกาหลีใต้ ถึงเรื่องราวของเธอ ภายหลังจากเดินทางกลับไปแข่งขันกอล์ฟที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และกับผลงานที่เธอคว้าแชมป์ เมเจอร์ รายการแรกให้กับตัวเองในศึก เคพีเอ็มจี วีเมนส์ แชมเปี้ยนชิพ ที่ เพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา

สวิงมือ 2 จากเกาหลีใต้ เผยว่า "พอหลังจากกักตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้น และตอนนี้ถือว่ามันเป็น


ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่เสียใจเลยที่กลับมาที่ สหรัฐ โดย เธอ เตรียมลงหวดในศึก พีลิแกน วีเมนส์ แชมเปี้ยนชิพ ที่จะมีการแข่งขันที่ ฟลอริด้า ในวันที่ 19 พ.ย.นี้ "ฉันคิดว่าตัวเองโชคดี เพราะช่วงเวลา โควิด-19 มันส่งผลกระทบกับการเล่นในทัวร์มาก ทำให้ตัวเองมีเวลาพัก และได้ทบทวนสิ่งต่างๆ ซึ่งมันช่วยกระตุ้นความมั่นใจในตัวเองให้มีมากขึ้น และจะพยายามทุ่มเทให้หนักเพื่อจะพาตัวเองก้าวขึ้นไปสู่ระดับตำนานอย่าง ปัค เซ-รี และ ปาร์ค อิน-บี"


ปีนี้นับว่า คิม สร้างผลงานได้ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นสถิติใน แอลพีจีเอ ทัวร์ ทั้ง สกอร์เฉลี่ยที่นำเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 ในการทำเงินรางวัล อันดับ 3 ในอันดับ เรซ ทู เดอะ โกลป สำหรับการเป็นนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี พร้อมกันนั้นก็หวังจะทำผลงานได้ดีกับการแข่งขัน ยูเอส.วีเมนส์ โอเพ่น ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ ที่ ฮุสตัน, เท็กซัส ซึ่งเป็นแชมป์ที่ ปัค เซ-รี คว้าแชมป์สำเร็จเมื่อปี 1998

นอกจากนั้น คิม ยังเผยว่าสิ่งที่เธอยังต้องการไม่เพียงแค่แชมป์ระดับเมเจอร์เท่านั้น โดยเธอทิ้งท้ายว่า "ฉันอยากจะทำผลงานให้ดีที่สุดในกีฬา โอลิมปิก ที่ โตเกียว หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนกับการแข่งขันในปีหน้านี้"


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม