เหมือนฝัน ดัสติน ซิวแชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส แจ๊ซซ์ จบที่ 51

"ดีเจ" ดัสติน จอห์นสัน สวิงมือ 1 ของโลก เผยสุดปลื้มเหมือนฝันเป็นจริง หลังผงาดคว้าแชมป์ "เดอะ มาสเตอร์ส 2020" ที่ ออกัสต้า เนชั่นเนล ประเทศสหรัฐเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา และเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้สมัยแรกของตัวเอง ขณะที่ "โปรแจ๊ส" อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ก้านเหล็กชาวไทย จบอันดับ 51 ร่วมด้วยสกอร์รวม 2 โอเวอร์พาร์ 290

รายการนี้นับเป็นเมเจอร์สุดท้ายของปี ซึ่งแข่งขันกันระหว่างวันที่ 12-15 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจบการแข่งขันรอบสุดท้ายผลปรากฏว่า ดัสติน จอห์นสัน สวิงหมายเลข 1 ของโลกชาวอเมริกัน สานฝันให้ตัวเองสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส เป็นสมัยแรกให้ตัวเองสำเร็จ และเป็นแชมป์เมเจอร์ที่ 2 หลังจากก่อนหน้านี้คว้าแชมป์ ยูเอส โอเพ่น เมื่อปี 2016 และเหลือที่จะทำแกรนด์สแลมเพียง 2 รายการนั่นคือในศึก ดิ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ และพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ที่ทำดีที่สุดก็แค่รองแชมป์ทั้ง 2 รายการ

ดีเจ เล่นรอบสุดท้ายด้วยผลงาน 6 เบอร์ดี้ 2 โบกี้ ทำสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 68 ทำสกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 268 คว้าแชมป์ในปีนี้ไปได้ โดยที่มี แคเมอรอน สมิธ สวิงชาวออสเตรเลีย รั้งอันดับ 2 ร่วมที่ทำสกอร์รวมเข้ามา 15 อันเดอร์พาร์ 273 เท่ากับ อิม ซัง แจ สวิงดาวรุ่งชาวเกาหลีใต้ ขณะที่ รอรี่ย์ แม็คอิลรอย นักกอล์ฟไอร์แลนด์เหลือ ทำได้เพียง 11 อันเดอร์พาร์ 277 รั้งอันดับ 5 ร่วม ส่วน ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตมือ 1 ของโลก ผลงานน่าผิดหวังเมื่อเก็บได้เพียง 1 อันเดอร์พาร์ 287 รั้งอันดับ 38 ร่วม

จอห์นสัน ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการครองแชมป์ด้วยสกอร์ที่ต่ำที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์การแข่งขัน เดอะ มาสเตอร์ส ว่า "ในที่สุดฝันก็เป็นจริง สมัยเด็กๆ ผมฝันที่จะคว้าแชมป์มาสเตอร์ส มันยากจะอธิบาย มันน่าเหลือเชื่อมากๆ" ด้าน "พญาเสือ" ไทเกอร์ วู้ดส์ เจ้าของแชมป์เก่าที่เป็นผู้มอบเสื้อ กรีนแจ็คเกต ให้กับแชมป์ ดัสติน จอห์นสัน เผยว่า "ก็อย่างที่เราทุกๆ คนได้เห็น เขาเป็นนักกีฬาที่น่าอัศจรรย์จริงๆ เขาเป็นหนึ่งในคนที่ดึงความเป็นนักกีฬาออกมาได้อย่างเต็มที่ในวงการกีฬาของเรา ดีเจมีความสามารถที่น่าเหลือเชื่อโดยที่เขายังคงสงบนิ่งใน

ช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเราทุกคนรู้ว่าในฐานะอดีตแชมป์นี่เป็นเรื่องที่ยากมากแค่ไหน เราต้องจัดการกับสภาวะอารมณ์ที่หลากหลายเมื่อออกไปแข่ง"

สำหรับ  "โปรแจ๊ส" อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ หนึ่งเดียวของไทย ฟอร์มแผ่วต่อเนื่องโดยในวันสุดท้ายเก็บ 4 เบอร์ดี้แต่ตีเสีย 7 โบกี้ สกอร์ 3 โอเวอร์พาร์ 75 ส่งผลให้สกอร์รวมทั้งหมด 4 รอบอยู่ที่ 2 โอเวอร์พาร์ 290 หล่นไปอยู่อันดับ 51 ร่วม