ดีเจ คว้าตำแหน่งสวิงยอดเยี่ยม พีจีเอ ทัวร์ จากสมาชิก

ดัสติน จอห์นสัน สวิงมือ 1 ของโลกชาวอเมริกัน คว้าตำแหน่งนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี 2020 ของ พีจีเอ ทัวร์ จากการโหวตของสมาชิก

"ดีเจ" ดัสติน จอห์นสัน สวิงมือ 1 ของโลกชาวอเมริกัน ได้รับเลือกได้คว้ารางวัล "แจ็ค นิคลอส อวอร์ด" หรือตำแหน่งนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี 2020 จากการลงคะแนนจากสมาชิกทัวร์ จากผลงานอันสุดยอดในซีซั่นนี้ ที่คว้า 3 แชมป์รวดในช่วงท้ายซีซั่น ซึ่งรวมถึงแชมป์ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ด้าน สก๊อตตี้ เชฟเฟลอร์ คว้าตำแหน่ง รุคกี้ยอดเยี่ยมแห่งปีไปครอง

พีจีเอ ทัวร์ ได้มีประกาศตำแหน่งนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี 2020 ภายหลังจากจบฤดูกาลแข่งขัน 2019-2020 ด้วยการมอบตำแหน่งนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีที่ได้รับการโหวตจากสมาชิกทัวร์ ซึ่งผู้เล่นที่มีสิทธิ์ลงคะแนนจะต้องลงแข่งในรายการ เฟดเอกซ์คัพ อย่างน้อย 10 รายการในซีซั่นที่ผ่านมา

จอห์นสัน วัย 36 ปี คว้าอันดับ 1 ในตาราง เฟดเอกซ์คัพ เป็นครั้งแรกของตัวเองในปีนี้ หลังซิวแชมป์ 2 รายการ เพลย์ออฟ และ 3 แชมป์ในซีซั่นนี้ โดย 3 แชมป์ในซีซั่นมาจากรายการ เทรเวเลอร์ส แชมเปี้ยนชิพ, เดอะ นอร์เทิร์น ทรัสต์ และ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ และมีคะแนนมาเสมอกัน จัสติน โธมัส ในการคว้าแชมป์มากที่สุด และเป็นการคว้าแชมป์มากกว่า 3 รายการเป็นฤดูกาลที่ 4 ของเขา ทำให้ จอห์นสัน ขยับสถิติคว้าแชมป์ในพีจีเอ ทัวร์ ทั้งสิ้น 23 รายการ และรั้งอันดับ 27 ในสถิติคว้าแชมป์ในทัวร์ตลอดกาล พร้อมกับทำสถิติลงเล่นในทัวร์แล้วทั้งสิ้น 13 ซีซั่น กลายเป็นนักกอล์ฟรายที่ 4 ที่ทำสถิตินี้ต่อจาก แจ็ค นิคลอส, อาร์โนลด์ พาลเมอร์ และ ไทเกอร์ วู้ดส์"

เจย์ โมนาฮาน ประธานบริหาร พีจีเอ ทัวร์ เผยว่า "ในนามของ พีจีเอ ทัวร์ ขอแสดงความยินดีกับ ดัสติน ที่ได้รับการเลือกให้เป็นนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี 2020 ของ พีจีเอ ทัวร์ จากบรรดานักกอล์ฟร่วมอาชีพ และนับเป็นผลงานที่จะมีเพียงนักกอล์ฟที่ผลงานสุดยอดเท่านั้นที่จะทำได้ ดัสติน ได้ผ่านอุปสรรคอย่างมากมายกับการแข่งขันตลอดทั้งซีซั่น และผลงานของเขาใน เฟดเอกซ์คัพ เพลย์ออฟ ก็ทำให้อย่างน่าทึ่งกับแชมป์ 2 รายการ ด้วยมาด และความเป็นนักกีฬาที่สุดยอดทำให้มันดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่เบื้องหลังทั้งหมดมาจากการทุ่มเททำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะการกลับมาจากอาการบาดเจ็บ ซึ่งผลงานของเขาในปี 2019-2020 มันเป็นตัวบอกได้ดี"

จอห์นสัน แทบไม่ได้ลงเล่นเลยในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา เนื่องจากอาการเจ็บ ก่อนมาลงสนามอีกครั้งในช่วง ธันวาคม 2019 และลงเล่นในนามทีมสหรัฐในศึก เพรสซิเด้นท์ส คัพ เป็นครั้งที่ 4 ก่อนเปิดซีซั่นด้วยการคว้าอันดับ 7 ร่วมในรายการ เซนทรี ทัวร์นาเม้นท์ ออฟ แชมเปี้ยนส์ และรั้งอันดับ 10 ร่วมในรายการ เจเนซิส อินวิเตชั่นเนล ก่อนฤดูกาลแข่งขันต้องชะงักเนื่องจาก โควิด-19 และกลับมาแข่งอีกครั้งในเดือน มิ.ย. ซึ่งตอนนั้น จอห์นสัน หลุดจากท๊อป 100 ของโลกในอันดับ เฟดเอกซ์คัพ ก่อนจะมาคว้าแชมป์ เทรเวเลอร์ส แชมเปี้ยนชิพ ในรายการที่ 3 ของการกลับมาเล่นหลังจากปลดล็อค โควิด-19 ทำให้เขาขยับเข้ามาอันดับ 22 ของโลก

สามรายการถัดมา จอห์นสัน ทำสถิติหวดที่สกอร์ในย่าน 60 ถึง 12 รอบติดต่อกัน และได้ลงเล่นในศึก ดับบลิวจีซี-เฟดเอกซ์ เซนต์ จู้ด อินวิเตชั่น ด้วยการรั้งอันดับ 12 ร่วม ก่อนจะมาเล่น เมเจอร์ แรกของปีในศึก พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยการขึ้นนำก่อนเริ่มรอบสุดท้าย ที่ ทีพีซี ฮาร์ดิ้ง ปาร์ค ก่อนที่จะคว้ารองแชมป์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้ได้นับตั้งแต่ แจ็ค นิคลอส เคยทำได้เมื่อปี 1964 และ 1965

จอห์นสัน มาคว้าแชมป์ นอร์เทิร์น ทรัสต์ หลังจากจบ 72 หลุมด้วยการทำสกอร์รวม 30 อันเดอร์พาร์ 254 และเอาชนะขาดถึง 11 สโตรค ซึ่งถือเป็นสถิติชนะห่างมากที่สุดของรายการนี้นับตั้งแต่ปี 2006 (ฟิล มิคเคลสัน เคยทำได้ด้วยการชนะขาดถึง 13 สโตรคในรายการ เบลล์เซาท์ คลาสสิค) ชัยชนะนี้ทำให้เป็นการครองแชมป์รายการที่ 5 ใน เฟดเอกซ์คัพ เพลย์ออฟ ทำให้เขาขยับขึ้นมือ 1 ของโลก และรั้งอันดับ 1 ในคะแนนสะสม เฟดเอกซ์คัพ และเป็นการคืนตำแหน่งมือ 1 ของโลกอีกครั้งนับตั้งแต่ พ.ค. 2019 ด้วย ก่อนที่รายการ บีเอ็มดับบลิว แชมเปี้ยนชิพ จอห์นสัน จะมาแพ้ให้กับ ราห์ม ในการเพลย์ออฟ แต่ก็เพียงพอที่ทำให้แต้มของเขาในอันดับ เฟดเอกซ์คัพ รั้งอันดับ 1 ก่อนจะเริ่มการเล่นรายการ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ และยังเป็นอันดับ 1 ในสถิติทำสโตรคของ เฟดเอกซ์คัพ ด้วย ก่อนที่จะมาคว้าแชมป์ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ และปิดฉากซีซั่น 2019-20 ด้วยผลงานที่สุดยอด และคว้ารางวัลนี้ด้วยการทำคะแนนชนะ คอลลิ่น โมริคาว่า, จอน ราห์ม, เว๊บบ์ ซิมพ์สัน และ จัสติน โธมัส ด้วย ซึ่งนับเป็นหนที่ 2 ของเขาที่คว้ารางวัลนี้ต่อจากเมื่อปี 2016

ด้าน สก๊อตตี้ เชฟเฟลอร์ สวิงหนุ่มจากดัลลัส จบในอันดับ เฟดเอกซ์คัพ ที่อันดับ 5 และเป็นหนึ่งใน 8 รุคกี้ของ พีจีเอ ทัวร์ ในปีนี้ที่ได้รับคัดเลือกให้เล่นในรายการ เฟดเอกซ์คัพ เพลย์ออฟ และรวมเป็นหนึ่งใน 2 นักกอล์ฟที่ได้ลงเล่นในรายการ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ด้วย ทำให้เขาได้รับรางวัล "อาร์โนลด์ พาลเมอร์ อวอร์ด" หรือรางวัล รุคกี้ยอดเยี่ยมแห่งปี ไปครอง เหนือผู้เล่นอย่าง แฮร์รี่ ฮิกก์ส, วิคเตอร์ ฮอฟแลนด์ และ มาเวอริค แม็คเนลี่ย์