แจ๊ซซ์ ขออยู่ที่อเมริกาหวังแจ้งเกิดในเวที พีจีเอ ทัวร์

โปรแจ๊ซซ์ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ (ขวาสุด) ร่วมถ่ายกับครอบครัว แดเนี่ยล โชปรา พร้อมกับแค๊ดดี้คู่ใจของตัวเอง ในบ้านใน เบย์ฮิลล์

"โปรแจ๊ซซ์" อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ สวิงหนุ่มจากไทย ยังคงหวังแจ้งเกิดในเวที พีจีเอ ทัวร์ ต่อไป หลังประกาศขออยู่ต่อที่แผ่นดินมะกันด้วยการอาศัยกับครอบครัวของ แดเนี่ยล โชปรา เพื่อนสวิงจากสวีเดน เพื่อเตรียมลงหวดในศึก พีจีเอ ทัวร์ ที่จ่อจะรีเทิร์นในเดือนหน้านี้

กับการแพร่ระบาดของ ไวรัส โควิด-19 ทำให้ศึก พีจีเอ ทัวร์ ต้องปิดตัวลง ซึ่ง "โปรแจ๊ซซ์" อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ สวิงหนุ่มวัย 24 ปี ยังคงทัวร์แข่งขันที่ สหรัฐ ซึ่งที่ผ่านมา สวิงหนุ่มจากไทยยังคงซุ่มซ้อม และเก็บตัวลี้ภัยอยู่ที่ ออร์แลนโด้ มากว่า 2 เดือนแล้ว ก่อนที่สวิงมือ 39 ของโลก จะประกาศว่าพร้อมกลับมาลงแข่งขันในศึก ชาร์ลส ชแวป ชาลเล้นจ์ ที่เป็นรายการแรกในการกลับมาของศึก พีจีเอ ทัวร์ ในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ ตามแนวทางป้องกันด้านสุขภาพ และความปลอดภัยใหม่

แจ๊ซซ์ ซึ่งวางแผนจะลงแข่งขันไม่ว่าจะเป็นศึก อาร์บีซี เฮอริเทจ, เดอะ เมมโมเรี่ยล ทัวร์นาเม้นท์ และศึก ดับบลิวจีซี-เฟดเอกซ์ เซนต์ จู้ด อินวิเตชั่นเนล เพื่อหวังโอกาสใน พีจีเอ ทัวร์ ของตัวเอง และกำลังเตรียมพร้อมกับศึก 3 จาก 4 รายการเมเจอร์ของปี 2020

แจ๊ซซ์ เผยว่า "ผมกำลังมองหาที่ลี้ภัยให้กับตัวเองที่นี่อยู่ มันยังมีอีก 2-3 รายการที่กำลังจะมาถึงมันคงเยี่ยม ผมไม่ห่วงว่าทำจะทำผลงานได้ดีแค่ไหน แค่อยากจะกลับมาเล่นทัวร์นาเม้นท์กอล์ฟอีกครั้งเท่านั้น มันยังมีรายการรอให้ผมไปแข่ง และทีมงานของผมก็พร้อมแล้ว ผมโชคดีที่ยังได้เล่นกอล์ฟอีกครั้งทั้งที่เกือบจะทั่วโลกมันยังไม่มีการแข่งขัน"

ความฝันในการเล่นในแผ่นดินอเมริกา ยังคงเป็นความภาคภูมิใจส่วนตัวของ แจ๊ซซ์ โดยเขาเดินทางจากบ้าน และครอบครัวมาตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ. เพื่อมายังอเมริกา ก่อนที่จะมีวิกฤติ โควิด-19 และรวมถึงไม่ได้ไปร่วมงานศพของคุณปู่ของเขาด้วย

แจ๊ซซ์ กล่าวว่า "ผมพยายามที่จะทำใจ และสมาธิให้พร้อมที่สุด มันเหมือนคุณกำลังเดินไปในอุโมงค์ และพยายามที่จะพาทางออกในปลายอุโมงค์ แน่นอนมันลำบาก เพราะคุณต้องจากบ้านมาไกล เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ปู่ของผมจากไปแบบไม่มีวันกลับ และทำให้ผมเศร้าใจมากที่ไม่ได้อยู่กับแม่ และครอบครัวในช่วงเวลานี้ ผมคิดถึงพวกเขามาก แต่ก็ขอบคุณเทคโนโลยีอันทันสมัย เพราะเรายังคง "เฟสไทม์" หากันเสมอๆ พวกเขาบอกให้ผมทำในสิ่งที่ตัวเองจะต้องทำ และต้องการ แต่ก็เตือนผมเสมอให้ระวัง และรักษาสุขภาพ"

แจ๊ซซ์ หวังว่าตัวเองจะได้มายืนในจุดเดียวกับ "โปรอาร์ม" กิรเดช อภิบาลรัตน์ สวิงรุ่นพี่ที่เป็นสมาชิกของ พีจีเอ ทัวร์ แบบเต็มตัว โดย แจ๊ซซ์ หวังว่านี่จะเป็นโอกาสให้ตัวเอง หลังจากออกสตาร์ทไม่ค่อยสวยใน พีจีเอ ทัวร์ ด้วยการจบอันดับ 53 ร่วมในศึก ดับบลิวจีซี-เม็กซิโก แชมเปี้ยนชิพ เมื่อเดือน มค. ก่อนจะพลาดตัดตัวในรายการ อาร์โนลด์ พาลเมอร์ อินวิเตชั่นเนล ที่ เบย์ฮิลล์ และหวด 76 ในรายการ เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ ก่อนที่หยุดไปเพราะวิกฤติ โควิด-19 โดย มือ 1 เอเชียน ทัวร์ 2019 เผยว่า "ผมอยากจะมีความรู้สึกแบบนั้นอีกครั้ง ความรู้สึกที่พร้อมแข่งขัน แม้ว่าไม่อยากจะพูดว่าอยากจะได้ แต่นั่นแหละคือเหตุผลที่ผมเล่นกอล์ฟ ผมอยากจะได้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ"

แม้ต้องจากบ้านมาไกล แต่ แจ๊ซซ์ ก็โชคดีที่ยังคงครอบครัวให้การต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นที่แผ่นดินอเมริกัน ซึ่งนั่นคือบ้านของครอบครัว แดเนี่ยล โชปรา สวิงชาวสวีดิชเจ้าของแชมป์ พีจีเอ 2 สมัย และเล่นใน เอเชียน ทัวร ซึ่งครอบครัว โชปรา อาศัยที่ เบย์ฮิลล์ และเชิญให้ แจ๊ซซ์ ย้ายมาอาศัยร่วมกันตั้งแต่มีการล็อคดาวน์ เมื่อวันที่ 13 มี.ค. เพราะทั้ง แจ๊ซซ์ และแค๊ดดี้ส่วนตัวของเขากำลังมองหาที่อาศัย

"ตอนที่มีการปิดทุกอย่าง ผมไม่อยากจะกลับเมืองไทย เพราะไม่มั่นใจว่าทุกอย่างจะปิดตัวลงถึงเมื่อไร และอีกอย่างประเทศไทยเองก็มีประกาศปิดประเทศด้วย ดังนั้นมันสายเกินไปที่จะกลับบ้านแล้ว ผมรู้จักกับ แดเนี่ยล เราเล่นด้วยกันที่ เอเชีย แต่ผมไม่นึกว่าเขาจะมีบ้าน และที่ซ้อมที่ เบย์ฮิลล์ เราจองโรงแรมกันไว้ 2 สัปดาห์ แต่เขาบอกให้เราไปอยู่กับเขาเลย มันเยี่ยมมากที่ได้มีคนคุ้นเคยอยู่ข้างตัว มันรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้อยู่บ้าน"

แจ๊ซซ์ อาศัยที่บ้านของ โชปรา ร่วมกับลูกสองคนของเขานั่นคือ คาสเปอร์ และ โคโค่ รวมถึงภรรยาของเขา ซาแมนธา มันเป็นสิ่งที่ประทับใจ แจ๊ซซ์ อย่างยิ่ง และนั่นทำให้ แจ๊ซซ์ ตกหลุมรักที่ เบย์ฮิลล์ ซึ่งเขากลายเป็นสมาชิกคนใหม่ของสนามกอล์ฟที่นั่น และประกาศอยากจะได้การ์ด พีจีเอ ทัวร์

แจ๊ซซ์ เผยถึง โชปรา ว่า "ที่นี่มีทุกอย่างอยู่ใกล้ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของ รวมถึงร้านหมอ และของใช้จิปาถะ กิจกรรมทุกวันขอเขาคือตื่นขึ้นมา และคิดว่าเราจะหาอะไรกินกัน จ้องมองหน้าต่าง และเรื่องเดิมๆซ้ำๆวนๆไป ตอนที่ห้ามเล่นกอล์ฟ พวกเราพยายามทำสิ่งต่างๆของเรา เราเล่นบาสเกตบอลกับ แคสเปอร์ ซึ่งเขาเอาชนะผมแบบสบายๆ ใช้เวลาว่างเล่น เวคบอร์ด, เวคเซิร์ป เล่นเทนนิสกับ ซาแมนธา และอะไรอีกหลายอย่าง"

เมื่อสนามกอล์ฟกลับมาเปิดบริการ ทั้ง แจ๊ซซ์ และ โชปรา ก็มีแมตช์วันเดย์เพื่อกระตุ้นความอยากในการแข่งขันอีกครั้ง ซึ่ง แจ๊ซซ์ เผยว่า "ผมคิดถึงการเดินทาง และการออกไปเล่น พบปะผู้คน พวกเราเล่นมินิทัวร์กัน โดยเราตื่นกันตั้งแต่ตี5 ขับรถ 2 ชม.ไปสนาม และแข่งกอล์ฟกัน หนแรกผมตี 1 อันเดอร์ฯ ก่อนหนที่ 2 ผมตี 2 อันเดอร์ฯ มาเสมอกับ โชปรา ที่อันดับ 3"

แจ๊ซซ์ เผยว่า "แดเนียล มีตาข่ายซ้อมกอล์ฟที่บ้าน และผมก็มีโอกาสได้ใช้มัน พวกเราเล่นกอล์ฟกันเกือบทุกวันด้วยกัน เขาเป็นคนที่สุดยอด และเป็นนักกอล์ฟชั้นยอดด้วย เขาเป็นคนชอบเกมข้างกรีน และเกมพัตต์ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงเป็นแชมป์ พีจีเอ ทัวร์ ขณะที่ คาสเปอร์ วัย 10 ขวบก็ยังเล่นกอล์ฟได้สุดยอดด้วย มันเยี่ยมแค่ไหนกับการได้มองเห็นเด็กอายุขนาดเค้าเล่นกับลูกกอล์ฟได้ทั้งวันแบบนั้น ขณะที่ผมยังให้เวลากับกอล์ฟน้อยกว่าพวกเขาเสียอีก และนั่นมันยิ่งทำให้ผมเพิ่มความรักในเกมกอล์ฟมากขึ้น และขยันกับตัวเองมากขึ้นด้วย"

"จริงๆผมคิดว่าหากผมกลับเมืองไทย มันอาจจะทำให้ผมไม่มีแรงกระตุ้นที่ดีกว่านี่ก็ได้ มันคงจะง่ายกว่าในการอยู่ที่นี่ ซึ่งผมก็เลือกแล้ว และคิดว่าลองอยู่ที่นี่เพื่อมองหาอะไรให้ตัวเอง และก็ไม่คิดว่าผมจะได้พบกับอะไรที่เกินคาดแบบนี้ ผมเชื่อมั่นว่าหากเราสามัคคีกัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทุกอย่างในโลกนี่มันคงจะดีขึ้นอย่างแน่นอน สำหรับ โชปรา และครอบครัว การต้อนรับผมให้รู้สึกเหมือนบ้านเช่นนี้ มันสร้างความประทับใจให้ผมมากๆ"