อังกฤษ ปลดล็อคกอล์ฟ 13 พ.ค.นี้ ด้าน สก๊อตต์-เวลส์-ไอร์แลนด์เหนือยังปิด

รัฐบาล อังกฤษ ไฟเขียวให้กิจกรรมกอล์ฟกลับมาพร้อมนโยบายเปลี่ยนจาก "อยู่บ้าน" มาเป็น "เฝ้าระวัง" ด้าน อาร์แอนด์เอ เผยการกลับมาน่าจะช่วยกระตุ้นธุรกิจกอล์ฟให้กลับมาดำเนินต่อไปได้

บรรดานักกอล์ฟของอังกฤษ ได้รับข่าวดีแล้ว หลังจากที่รัฐบาลประกาศปลดล็อคกิจกรรมกอล์ฟลงในวันที่ 13 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ดีกับที่ สก๊อตแลนด์, เวลส์ และ ไอร์แลนด์เหนือ ยังคงคำสั่งที่จะล็อคดาวน์กิจกรรมกอล์ฟต่อไป



ข้อความดังกล่าวมาจาก อาร์แอนด์เอ ภายหลังจากถ้อยแถลงของ นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษที่มีขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดย มร.จอห์นสัน เผยถึงการเปลี่ยนข้อความจากการ "อยู่บ้าน" เพื่อความปลอดภัยที่เป็นมานานกว่า 7 สัปดาห์ ให้เป็นการ "เฝ้าระวัง" แม้ว่าจะมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์จะออกมาโจมตีถึงข้อความดังกล่าวที่ดูคลุมเคลือ และไม่ชัดเจนก็ตาม

มร.จอห์นสัน เผยว่าหากใครไม่สามารถทำงานที่บ้านได้ก็สามารถออกไปทำงานได้ด้วยความระวัง และจากตั้งแต่วันพุธนี้เป็นต้นไปจะอนุญาตให้ทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ แต่ยังคงอยู่ในแนวทางในการรักษาระยะห่างทางสังคม ก่อนที่ทาง อาร์แอนด์เอ จะโพสต์ข้อความผ่านทาง ทวีตเตอร์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ว่า กอล์ฟ ได้รับอนุญาตให้กลับมามีกิจกรรมอีกครั้งตั้งแต่วันพุธนี้เป็นต้นไป แต่เฉพาะแค่ในอังกฤษเท่านั้น โดยในกิจกรรมกลาแจ้งจะต้องทำเพียงคนเดียว หรือแค่ในครอบครัวเท่านั้น

เช่นเดียวกับอังกฤษที่ รัฐบาลไอร์แลนด์ ออกมาประกาศที่จะปลดล็อคกิจกรรมกอล์ฟในวันที่ 18 พ.ค.นี้ แต่ยังคงมีมาตราการณ์ในการเดินทางไม่เกิน 5 กม.ต่อไป

ด้าน อาร์แอนด์เอ ก็ได้มีคำแถลงการณ์ว่า "กับกีฬาที่เราจะต้องทำงานร่วมกันในการรับผิดชอบของการกลับมามีกิจกรรมอีกครั้ง และเมื่อรัฐบาลมีคำสั่งเช่นนั้น เราก็พร้อมจะทำตาม แต่เราจะต้องทำด้วยความระมัดระวัง และไม่ประมาท เราเองก็เพิ่งจะได้รับคำแนะนำในการปฏิบัติในการกลับมาเล่นกอล์ฟอีกครั้ง และพิจารณาถึงการกลับมาดำเนินธุรกิจกอล์ฟอีกครั้ง"

"การระบาดของ ไวรัส โควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักให้กับสนามกอล์ฟ และสนามซ้อม ซึ่งเราหวังว่าการกลับมาของกิจกรรมกอล์ฟ จะมีส่วนช่วยให้ธุรกิจเหล่านั้นไปต่อได้"

อย่างไรก็ดีกับ นิโคล่า สเตอร์เจี้ยน นายกรัฐมนตรีของ สก๊อตแลนด์ ยังคงค้านที่จะให้กิจกรรมกอล์ฟกลับมาอีกครั้ง แต่ยังอนุญาตให้ผู้คนเข้าไปใช้พื้นที่ของสนามในการออกกำลังกายได้ พร้อมทั้งยังเรียกร้องให้ รัฐบาลอังกฤษ อย่าพยายามชี้นำเอามาตราการ "เฝ้าระวัง" มาใช้กับการบริหารงานของรัฐบาลสก๊อตแลนด์ด้วย

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม