แจ๊ซซ์ ซิวมือ 1 เอเชียนทัวร์ หลัง เฮนด์ ไม่ร่วมหวดที่แอฟริกาใต้
 |
| โปรแจ๊ซซ์ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ สวิงหนุ่มจากหัวหิน เป็นโปรไทยคนที่ 4 ที่คว้ามือ 1 เอเชี่ยน ทัวร์ สำเร็จ ต่อจาก ธงชัย ใจดี, ถาวร วิรัตน์จันทร์ และ กิรเดช อภิบาลรัตน์ |
การแข่งขันกอล์ฟรายการ แอฟราเซีย แบงค์ เมอริเชียส โอเพ่น มีขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 ธ.ค.นี้ ณ สนามเฮอริเทจ กอล์ฟ คลับ ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยภายหลังจากการเปิดเผยรายชื่อผู้เล่นที่มาร่วมการแข่งขัน ปรากฏว่า ไม่มีชื่อของ สก๊อตต์ เฮนด์ สวิงจอมเก๋าจากออสเตรเลีย ที่รั้งอันดับ 2 ในอันดับสะสมเงินรางวัล ทำให้ โปรแจ๊ซซ์ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ สวิงวัย 23 ปีจากไทย ที่รั้งอันดับ 1 ของตารางคว้ามือ 1 ของทัวร์
ปีนี้ โปรแจ๊ซซ์ คว้าแชมป์ เอสเอ็มบีซี สิงค์โปร์ โอเพ่น และแชมป์ โคลอน โคเรีย โอเพ่น พร้อมทั้งติดท๊อป 10 ไปทั้งสิ้น 7 รายการ และกลายเป็นนักกอล์ฟไทยรายที่ 4 ที่คว้ามือ 1 ของทัวร์ ต่อจาก ธงชัย ใจดี (2001, 2001, 2009), ถาวร วิรัตน์จันทร์ (2005, 2012) และ กิรเดช อภิบาลรัตน์ (2013)
โปรแจ๊ซซ์ เจ้าของมืออันดับ 52 ของโลก เผยว่า "มันนับเป็นเกียรติที่ถูกยกไปเทียบเคียงผู้เล่นอย่าง ธงชัย, ถาวร และกิรเดช กับการเป็นคนไทยคนต่อไปที่จะคว้ามือ 1 ของ เอเชียน ทัวร์ พวกเขาเหล่านั้นต่างเป็นแชมป์ที่มีฝีมือระดับพระกาฬทั้งสิ้น ผมภูมิใจที่ตัวเองถูกนำไปหยิบยกเคียงข้างพวกเขาจริงๆ ปีนี้มันไม่ใช่ปีที่สมบูรณ์แบบมาก แต่มันก็เป็นปีที่ผมทำผลงานได้ดีขึ้นมากกว่าเดิมในทุกๆด้าน มันถือเป็นปีที่ดี และผมก็รักษาโอกาสของตัวเองในการรักษาฟอร์มการเล่น"
แชมป์ที่่น่าประทับใจของ แจ๊ซซ์ เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มซีซั่นกับศึก สิงค์โปร์ โอเพ่น เมื่อเดือน มกราคม หลังจากเอาชนะผู้เล่นระดับโลกอย่าง เซร์คิโอ การ์เซีย และ พอล แคซี่ย์ รวมถึงกับการคว้าแชมป์รายการใหญ่อย่างศึก โคเรีย โอเพ่น เมื่อเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมากด้วย
"การเอาชนะที่ สิงค์โปร์ นับเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญสำหรับปีนี้ของผม เพราะมันเป็นการเริ่มต้นปีที่ยอดเยี่ยม และชัยชนะนั้นทำให้ตัวเองอันดับโลกทะลุขึ้นมาท๊อป 100 ด้วย มันเป็นการเบิกร่องที่ดี และผมก็รักษาโอกาสของตัวเองไว้ได้" ซึ่งชัยชนะนี้ทำให้ แจ๊ซซ์ นำในอันดับ พานาโซนิค สวิง ซีรี่ย์ส และทำให้มีโอกาสเดินทางไปแข่งขันในศึก เจแปน ทัวร์ โดยที่ติดท๊อป 10 ถึง 6 รายการด้วย
เดือนพฤษภาคม แจ๊ซซ์ ได้กลายเป็นที่โจทษ์จันทั่วโลกกับการแข่งขัน พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเขาจะทะลุไปจนถึงรอบสุดท้ายด้วยการรั้งอันดับ 2 ร่วมก่อนที่จะปิดฉากด้วยการทำสกอร์ 77 คว้าอันดับ 14 ร่วม และถือเป็นอันดับที่ดีที่สุดของนักกอล์ฟไทยในระดับรายการ เมเจอร์ อีกด้วย
แจ๊ซซ์ ซึ่งได้รับโอกาสลงหวดใน ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 148 ในเดือน ก.ค. และเป็นหนที่ 2 ของตัวเขากับการแข่งขันนี้ เผยถึงการเล่นใน พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ว่า "การเล่นใน พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ มันไม่เพียงจะเป็นประสบการณ์ที่พิเศษสุดเท่านั้น แต่มันเป็นหนึ่งในความทรงจำที่สุดประทับใจของผมด้วย การลงเล่นต่อหน้าแฟนกอล์ฟที่เยอะเช่นนั้น และต้องเผชิญหน้ากับนักกอล์ฟระดับโลกฝีมือพระกาฬ มันเป็นอะไรที่ยากจะลืมลง"
จุดเริ่มต้นของ แจ๊ซซ์ ใน เอเชียน ทัวร์ เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2010 กับการเป็นนักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดตลอดกาลที่ผ่านการตัดตัวในการแข่งขัน เอเชียน ทัวร์ อินเตอร์เนชั่นเนล 2010 ที่กรุงเทพ ด้วยวัยเพียงแค่ 14 ปีกับ 71 วัน แต่เส้นทางของเขาก็ไม่ได้ราบเรียบ และสะดวกสบาย แต่มันเต็มไปด้วยอุปสรรค ทั้งอาการบาดเจ็บ และฟอร์มการเล่นที่ตกต่ำ
แจ๊ซซ์ มาเสียการ์ด เอเชียน ทัวร์ เป็นหนแรกในปี 2016 ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามามากมาย แต่เขาก็ฟันฝ่าจนกลับมาคว้าการ์ดทัวร์ สำเร็จจากชัยชนะในการแข่งขัน บาชุนธารา บังคลาเทศ โอเพ่น
"ประสบการณ์นั่นมันทำให้ผมกลายเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้น ผมใช้เวลา 2 สัปดาห์ ในการบวชเป็นพระในพระพุทธศาสนา ซึ่งนั่นทำให้ผมมีโอกาสได้รู้จักกับควมสงบ และหันมามองชีวิตในแบบมีความสุขมากขึ้น ชัยชนะที่ บังคลาเทศ ทำให้ผมกลับมามีความมั่นใจ และกลับมาเล่นกอล์ฟได้ดีขึ้น และคว้าแชมป์ในที่สุด"
สิ่งที่ทำให้ แจ๊ซซ์ ตอกย้ำความสำเร็จของตัวเองกับการคว้าแชมป์ ควีนส์ คัพ 2018 ที่สนาม ฟีนิกซ์โกลด์ พัทยา และมาคว้าแชมป์ โอเพ่น ที่ สิงค์โปร์ และที่ เกาหลีใต้ ในปีนี้
และกับเส้นทางในการแข่งขันของ แจ๊ซซ์ มันก็เริ่มเปิดโล่งมากขึ้นกับความสำเร็จที่ทำได้ และชัยชนะที่กำลังรอเขาอยู่ในปี 2020 ซึ่งสวิงหนุ่มจากไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า "ผมก็แค่อยากจะทำผลงานให้ดี้น และก็คงจะยังไม่หยุดพักในการไล่ล่าคว้าเกียรติยศให้กับตัวเอง ต้องการลงแข่งขันในรายการ เมเจอร์ส และอยากจะก้าวไปสู่ในระดับโลกต่อไปด้วย"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น