สกท.-เอเชี่ยนทัวร์ ระเบิดศึก ไทยแลนด์ โอเพ่น หนที่ 48 7-10 พ.ย.นี้ ชิงถ้วยพระราชทาน ร.9 ณ ไทยคันทรีคลับ

รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ (กลาง) นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย มร.โช มินน์ ตันท์ (ที่ 2 ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอเชียนทัวร์ และ มร.จอห์น บลันช์ (ที่ 2 ซ้าย) ผจก.ทั่วไปสนามกอล์ฟไทยคันทรีคลับ แถลงข่าวกอล์ฟเอเชียนทัวร์ "ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 48" ชิงถ้วยพระราชทาน ร.9 ที่สนามไทย คันทรี คลับ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อ 5 พ.ย.62
สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย (สกท.) ร่วมกับ เอเชี่ยน ทัวร์ จัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพ "ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งที่ 48" ชิงถ้วยพระราชทาน ร.9 พร้อมเงินรางวัลรวม 300,000 เหรียญสหรัฐ (9 ล้านบาท) 7-10 พ.ย.นี้ ณ สนามไทยคันทรีคลับ จ.ฉะเชิงเทรา นักกอล์ฟชั้นนำร่วมหวดกันคึกคัก พร้อมลุ้นสวิงไทยซิวแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน


รายการนี้ถือเป็นแมตช์ เนชั่นเนล โอเพ่น ที่เก่าแก่ที่สุดของทวีป เอเชีย โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ คลับเฮ้าส์ สนามไทยคันทรีคลับ นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย มร.โช มินน์ ตันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอเชียนทัวร์ และ มร.จอห์น บลันช์ ผู้จัดการทั่วไปสนามกอล์ฟไทยคันทรีคลับ ร่วมแถลงข่าวความพร้อมจัดการแข่งขัง

"บิ๊กรัง" นายรังสฤษดิ์ เผยว่า "ยินดีที่ได้ร่วมจัดการแข่งขันกับ เอเชียนทัวร์ อีกครั้ง เราทำงานร่วมกันมายาวนานเพื่อยกระดับมาตรฐานของการแข่งขันรายการนี้ และรายการนี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนากีฬากอล์ฟในประเทศไทยตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา ปีนี้เราหวังว่าจะได้เห็นการแข่งขันไทยแลนด์ โอเพ่น ประสบความสำเร็จเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ด้วยการที่รายการนี้มีประวัติที่ยาวนาน ทำให้มีนักกอล์ฟชั้นนำมาร่วมแข่งขันทั้งไทย และต่างชาติ  อีกครั้งยังได้ครองถ้วยพระราชทาน ร.9 ด้วย พร้อมเป็นเวทีสำคัญให้นักกอล์ฟไทยได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์แข่งขัน และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ"

ด้าน มร.โช มินน์ ตันท์ บิ๊กบอส เอเชียนทัวร์ เผยว่า "ต้องขอบคุณสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ และสนามกอล์ฟไทยคันทรีคลับ ในความมุ่งมั่นทุ่มเทและการสนับสนุนที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับวงการกอล์ฟอาชีพทั่วภูมิภาคเอเชีย หวังว่าศึก ไทยแลนด์ โอเพ่น จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟรุ่นใหม่ต่อไป"

ปีนี้มีนักกอล์ฟ 144 คนจาก 20 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน โดยที่ผ่านมามีนักกอล์ฟไทยเพียงแค่ 5 คนที่คว้าแชมป์รายการนี้ ประกอบด้วย สุเทพ มีสวัสดิ์ (1991), บุญชู เรืองกิจ (1992 และ 2004), ประหยัด มากแสง (2013), รฐนน วรรณศรีจันทร์ (2017) และ  ภาณุพล พิทยารัฐ (2018)

"โปรมะพร้าว" วัย 26 ปี เจ้าของแชมป์จากหนก่อนเผยว่า "ตื่นเต้นและเฝ้ารอที่จะได้ลงป้องกันตำแหน่งแชมป์ ยังจำบรรยากาศการคว้าแชมป์เมื่อปีที่แล้วได้ดี รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คว้าแชมป์ระดับเนชั่นแนล โอเพ่น ในบ้านเกิดสำเร็จ ปีนี้ฟอร์มตัวเองก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้ไม่ท็อปฟอร์ม แต่ก็กำลังปรับอยู่ และเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว"

พร้อมกันนี้รายการนี้ยังให้สิทธิ์นักกอล์ฟสมัครเล่น 10 คน รวมถึงสวิงทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันเพื่อหาประสบการณ์ก่อนลุยมหกรรมกีฬาซีเกมส์ด้วย ประกอบด้วย เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์, นพรัฐ พานิชผล, วันชัย หลวงนิติกุล, วาริษ มั่นธรณ์, ธนกร ตอสี, วิชญ์ ปิติพัฒน์, วีรวิชญ์ นาคประชา, จอร์จ (ธนรัฐ) ดวงมณี และ เอกปริษฐิ์ หวู่ แถมยังเป็นหนึ่งใน ทัวร์นาเมนท์ของพานาโซนิค สวิง ซีรีส์ 2019/2020 รายการที่สาม ซึ่งเป็นซีรีส์เก็บคะแนนจาก 5 รายการของเอเชียนทัวร์ ซึ่งผู้ที่ครองอันดับหนึ่งจะได้รับเงิน 70,000 เหรียญสหรัฐ อันดับสอง 5,000 เหรียญสหรัฐฯ และอันดับสาม 3,000 เหรียญสหรัฐ อีกด้วย


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม