โปรโจ๊กหวังสร้างประวัติศาสตร์อีกหนสวิงที่ คลาสสิค จีซีซี เดือนหน้า
![]() |
ชัพชัย นิราช สวิงวัย 36 ปีจาก พิษณุโลก หวังคืนฟอร์มในการแข่งขัน คลาสสิค กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ อินเตอร์เนชั่นเนล แชมเปี้ยนชิพ ที่จะมีการแข่งขันในเดือนหน้านี้ที่ ประเทศ อินเดีย |
รายการนี้จะเป็นแมตช์ชิงเงินรางวัลรวม 300,000 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 8,829,000 บาท) ซึ่งเป็นแมตช์โคแซงชั่น ระหว่าง เอเชี่ยน ทัวร์ และ โปรเฟสชั่นเนล กอล์ฟ ทัวร์ ออฟ อินเดีย (พีจีทีไอ) ซึ่งจะเป็นแมตช์ที่ ชัพชัย นิราช สวิงวัย 36 ปีจาก พิษณุโลก เจ้าของแชมป์เอเชี่ยน ทัวร์ 4 รายการ เคยสร้างประวัติศาสตร์เอาไว้ในการแข่งขันที่นี่
การแข่งขันปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 ก.ย.นี้ โดยเมื่อปี 2009 ชัพชัย เคยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการทำสถิติโลกในการเป็นนักกอล์ฟที่ทำสกอร์ต่ำที่สุดในการเล่น 4 รอบ 72 หลุม ด้วยการทำไปทั้งสิ้น 32 อันเดอร์พาร์ และคว้าแชมป์ เอเชี่ยน ทัวร์ สมัยที่ 3 ให้ตัวเองสำเร็จ
กับการหวนกลับมาจัดการแข่งขันที่สนาม คลาสสิค กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ อีกครั้งในปีนี้ทำให้สวิงจากแดน 2 แคว ที่มีความทรงจำที่ยอดเยี่ยมกับสนามแห่งนี้หวังที่จะรำลึกประวัติศาสตร์ที่ตัวเองเคยทำเอาไว้ "การแข่งขัน ไทยแลนด์ โอเพ่น จะมีการจัดการแข่งขัน 1 สัปดาห์ก่อนการแข่งขัน ซีล โอเพ่น ซึ่งตอนนั้น จโยติ รันด์ฮาวา คว้าตำแหน่งแชมป์ เนชั่นเนล โอเพ่น ของผม ดังนั้นก็มีเพื่อนหลายคนพูดกับผมเล่นๆก่อนแข่งว่า ทำไมไม่เอาชนะรายการที่ อินเดีย บ้างละ ดังนั้นกับการที่มีนักกอล์ฟอินเดียมาคว้าแชมป์ที่ประเทศไทย มันเลยทำให้ผมต้องการจะคว้าแชมป์ที่บ้านของพวกเขาบ้าง"
มันเหมือนโชคชะตา เพราะในสัปดาห์นั้น ชัพชัย เสียแค่ 2 แต้มเท่านั้น และทำไปถึง 34 เบอร์ดี้กับการแข่งขันทั้ง 4 รอบในรายการดังกล่าว และเอาชนะคู่แข่งทิ้งห่างถึง 11 สโตรค และสร้างสถิติโลกไว้ที่สนาม เดอะ คลาสสิค กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ
"เป้าหมายของผมคือแค่เอาชนะเท่านั้น ไม่ได้คิดถึงสถิติอะไรทั้งสิ้นเลย ไม่มีความกดดันในระหว่างพัตต์เบอร์ดี้สุดท้าย ซึ่งนั่นมันช่วยให้ผมทำลายสถิติโลกก็ตาม แต่มันก็เป็นโชคของผมเช่นกัน เพราะจำได้ว่าลูกไปตกใน ไดวอท และผมจะต้องชิพเผื่อกว่า 3 ฟุตจากพิน ก่อนที่จะมาพัตต์เบอร์ดี้"
นอกเหนือจาก ชัพชัย แล้วยังมีสวิงไทยอย่าง ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ เจ้าของแชมป์เอเชี่ยน ทัวร์ 1 สมัย และ ลี แตอี สวิงชาวเกาหลีใต้ ที่เพิ่งจะคว้าแชมป์ เอเชี่ยน ทัวร์ ในบ้านเกิดเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังมีผู้่เล่นรับเชิญ 3 คนจาก ซันไชน์ ทัวร์ และ พีจีเอ ทัวร์ ออฟ ออสเตรเลีย ด้วย พร้อมกับบรรดาโปรเจ้าถิ่นอย่าง คาลิน โยชิ และ อาจีเทศ ซานธู
ก่อนที่จะก้าวมาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันใน เอเชี่ยน ทัวร์ ในปี 2009 สนาม คลาสสิค กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ เคยเป็นสนามจัดการแข่งขันรายการ อินเดี่ยน โอเพ่น ในปี 2000 และ 2001 มาจากจะได้เป็นสนามเหย้าจัดการแข่งขันในระดับอาชีพหลายรายการในศึก โปรเฟสชั่นเนล กอล์ฟ ทัวร์ ออฟ อินเดีย (พีจีทีไอ) อีกด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น