4 สวิงไทยพร้อมหวดใน ดิ โอเพ่น ที่ รอยัล พอร์ทรัช
"โปรอาร์ม" กิรเดช อภิบาลรัตน์, "โลมายักษ์" พรหม มีสวัสดิ์, "แจ๊ซซ์" อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ และ กัญจน์ เจริญกุล 4 สวิงไทยที่คว้าตั๋วไปแข่งขันในศึกรายการ เมเจอร์ที่เก่าแก่ที่สุดของโลกอย่าง ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 148 ณ สนาม รอยัล พอร์ทรัช ซึ่งเตรียมแข่งขันกันในสัปดาห์หน้านี้ ออกมายืนกรานชัดแล้วว่าพร้อมเต็มที่กับการแข่งขันอันศักดิ์สิทธิ์บนแผ่นดินเกิดของเกมกอล์ฟ
ทั้ง 4 ต่างก็ถือธงไตรรงค์ของไทยในการแข่งขัน เอเชี่ยน ทัวร์ และต่างพิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่มีฝีมือพอที่จะลงหวดในรายการกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่ที่ ดันลุช ลิงค์ส ที่ รอยัล พอร์ตรัช ที่เป็นการกลับมาแข่งขันที่นี่เป็นหนแรกในรอบ 68 ปีด้วย
ไม่เคยมีนักกอล์ฟคนไหนในระดับโลกที่เคยลงสนามในรายการ เมเจอร์ ที่ รอยัล พอร์ตรัช เล ก่อนที่จะมีการแข่งขัน ดิ โอเพ่น หนที่ 148 ในระหว่างวันที่ 18-21 ก.ค.นี้ ซึ่งดูเหมือนการแข่งขันหนนี้ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน เพราะต่างก็ไม่เคยสัมผัสกับสนามมาก่อน กับสภาพสนามในแบบ ลิงค์ส คอร์ส ที่ติดชายหาดด้านเหนือของ แอนทริม ในประเทศไอร์แลนด์เหนือ
โปรอาร์ม ที่เป็นนักกอล์ฟมือ 51 ของโลก ซึ่งถือว่าเป็นมือดีที่สุดในบรรดา 4 คน จะลงสนามใน ดิ โอเพ่น เป็นหนที่ 6 ให้กับตัวเอง 4 ครั้ง อาร์ม ไม่ผ่านการตัดตัว (2013, 2014, 2015 และ 2016) ก่อนที่จะมารั้งอันดับ 75 ในการแข่งขันเมื่อปีที่ผ่านมาที่ คาร์นุสตี้ เมื่อปีที่ผ่านมา
กับหนแรกกับการถือการ์ดทัวร์ของ พีจีเอ โปรอาร์ม ก็กำลังสนุกกับชีวิตการเล่นที่ สหรัฐ กับผลงานในการรั้งอันดับ 3 ร่วม และ 5 ร่วมในการแข่งขัน ดับเบิ้ลยูจีซี-เม็กซิโก แชมเปี้ยนชิพ และในรายการ เอที แอนด์ ที ไบรอน เนลสัน ในการแข่งขันในซีซั่นนี้
"มันเป็นผลมาจากการทำงานอันหนักมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และผมก็สร้างโอกาสให้กับตัวเอง มันไม่ไกลแล้วกับการที่จะคว้าชัยชนะ มันเป็นความฝันที่กำลังจะเป็นความจริง และผมหวังว่าผมจะทำให้ประเทศของผมภูมิใจกับสิ่งที่ผมทำได้ด้วย"
"ผมต้องการทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อคว้าชัยชนะในรายการยักษ์ใหญ่ซักรายการ นั่นคือเป้าหมายของผม" เจ้าของมือ 1 ของ เอเชี่ยน ทัวร์ ปี 2013 กล่าว
แจ๊ซซ์ ซึ่งมีอันดับโลกตามหลัง อาร์ม แค่อันดับเดียว ซึ่งถือว่าเขากำลังกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ของทัวร์ ที่ไปสร้างชื่อในระดับนานาชาติ และเป็นการลงหวดในศึก ดิ โอเพ่น สมัยที่ 2 ของเขา หลังจากคว้าแชมป์ เอสเอ็มบีซี สิงค์โปร์ โอเพ่น เมื่อต้นซีซั่นที่ผ่านมา
สวิงหนุ่มวัย 23 ปี จาก หัวหิน เผยว่า "การลงเล่นใน ดิ โอเพ่น เมื่อปีที่แล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่วิเศษอย่างยิ่งในชีวิตการเล่นของผม และผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้ควอลิฟายเข้าไปเล่นอีกครั้งจากชัยชนะของผมที่ สิงค์โปร์ โอเพ่น การได้รับสิทธิลงแข่งขันใน ดิ โอเพ่น คือสิ่งที่ดีที่สุด และผมก็พร้อมแล้วกับความท้าทายที่ รอยัล พอร์ตรัช"
ชัยชนะที่ 4 ในชีวิต และแชมป์ที่ 2 ของปีนี้ของ แจ๊ซซ์ ในรายการ โคลอน โคเรีย โอเพ่น ทำให้อันดับโลกของเขาไต่ขึ้นมารั้งอันดับ 52 ของโลก ซึ่งถือว่าเป็นอันดับสูงสุดในชีวิตการเล่นของเขา
นอกจากนั้นแล้ว แจ๊ซซ์ ยังทำให้โลกได้รู้จักเขากับการแข่งขัน พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังรั้งอันดับ 14 ร่วมในการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดของบรรดานักกอล์ฟไทยทั้งหมดในการแข่งขันรายการ เมเจอร์ อีกด้วย
แจ๊ซซ์ ที่ปัจจุบันเป็นผู้นำในอันดับทำเงินรางวัลสะสมของ เอเชี่ยน ทัวร์ และในศึก เจแปน กอล์ฟ ทัวร์ กล่าวว่า "ผมพยายามที่จะเล่นให้สม่ำเสมอมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในปีนี้ และยินดีอย่างมากกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับผมในตอนนี้ ผมได้ยินมาว่าสภาพสนามที่ รอยัล พอร์ตรัช เป็นสนามที่ยากมาก แต่ผมก็พร้อมแล้ว"
เช่นเดียวกับ แจ๊ซซ์ "โลมายักษ์" พรหม มีสวัสดิ สวิงจอมเก๋าจากหัวหินเช่นกัน ก็ลงเล่นใน ดิ โอเพ่น เป็นสมัยที่ 2 โดยที่เจ้าของแชมป์ เอเชี่ยน ทัวร์ 2 รายการ คว้าตั๋วไปเล่นใน ดิ โอเพ่น หลังจากคว้าอันดับ 5 ร่วมในการแข่งขัน เอสเอ็มบีซี สิงค์โปร์ โอเพ่น ซึ่งก็หวังว่าครั้งนี้เขาจะทำผลงานได้ดีที่ รอยัล พอร์ตรัช
สวิงวัย 34 ปี กล่าวว่า "มันเยี่ยมมากกับการที่ได้กลับไปที่ ดิ โอเพ่น อีกครั้งในเดือน ก.ค.นี้ มันเป็นหนที่ 2 ของผมในรายการระดับเมเจอร์ ผมยังจำได้ดีในครั้งแรกที่ผมเล่นในรายการนี้ที่ รอยัล เซนต์ จอร์จ เมื่อปี 2011 มันเป็นหนึ่งในรายการ เมเจอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และผมก็พยายามที่จะผ่านควอลิฟายให้ได้ทุกครั้งเท่าที่มีโอกาส ผมดีใจที่ในที่สุดผมก็ได้รับโอกาสไป ดิ โอเพ่น อีกครั้ง"
มาถึงน้องเล็กคนสุดท้ายอย่าง กัญจน์ เจริญกุล ที่คว้าอันดับ 2 ใน เอเชี่ยน ทัวร์ ควอลิฟายอิ้ง สคูล เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และรักษาการ์ดทัวร์ของเขาไว้ได้ และการได้ไปหวดใน ดิ โอเพ่น ก็มาจากการคว้าอันดับ 3 ร่วมในการแข่งขัน มิซูโน่ โอเพ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในสนาม ควอลิฟายอิ้ง ซีรี่ย์ส ของ ดิ โอเพ่น ใน เจแปน กอล์ฟ ทัวร์
สวิงหนุ่มจาก จ.พังงา เผยว่า "มัน เมเจอร์ แรกของผมที่จะได้ลงแข่งขัน และคงจะเป็นประสบการณ์ที่ประเมินค่าไม่ได้ ผมตื่นเต้น และแทบอดใจไม่ไหวที่จะลงเล่นที่ รอยัล พอร์ตรัช เป็นหนแรก"
ทั้ง 4 ต่างก็ถือธงไตรรงค์ของไทยในการแข่งขัน เอเชี่ยน ทัวร์ และต่างพิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่มีฝีมือพอที่จะลงหวดในรายการกอล์ฟที่ยิ่งใหญ่ที่ ดันลุช ลิงค์ส ที่ รอยัล พอร์ตรัช ที่เป็นการกลับมาแข่งขันที่นี่เป็นหนแรกในรอบ 68 ปีด้วย
ไม่เคยมีนักกอล์ฟคนไหนในระดับโลกที่เคยลงสนามในรายการ เมเจอร์ ที่ รอยัล พอร์ตรัช เล ก่อนที่จะมีการแข่งขัน ดิ โอเพ่น หนที่ 148 ในระหว่างวันที่ 18-21 ก.ค.นี้ ซึ่งดูเหมือนการแข่งขันหนนี้ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน เพราะต่างก็ไม่เคยสัมผัสกับสนามมาก่อน กับสภาพสนามในแบบ ลิงค์ส คอร์ส ที่ติดชายหาดด้านเหนือของ แอนทริม ในประเทศไอร์แลนด์เหนือ
โปรอาร์ม ที่เป็นนักกอล์ฟมือ 51 ของโลก ซึ่งถือว่าเป็นมือดีที่สุดในบรรดา 4 คน จะลงสนามใน ดิ โอเพ่น เป็นหนที่ 6 ให้กับตัวเอง 4 ครั้ง อาร์ม ไม่ผ่านการตัดตัว (2013, 2014, 2015 และ 2016) ก่อนที่จะมารั้งอันดับ 75 ในการแข่งขันเมื่อปีที่ผ่านมาที่ คาร์นุสตี้ เมื่อปีที่ผ่านมา
กับหนแรกกับการถือการ์ดทัวร์ของ พีจีเอ โปรอาร์ม ก็กำลังสนุกกับชีวิตการเล่นที่ สหรัฐ กับผลงานในการรั้งอันดับ 3 ร่วม และ 5 ร่วมในการแข่งขัน ดับเบิ้ลยูจีซี-เม็กซิโก แชมเปี้ยนชิพ และในรายการ เอที แอนด์ ที ไบรอน เนลสัน ในการแข่งขันในซีซั่นนี้
"มันเป็นผลมาจากการทำงานอันหนักมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และผมก็สร้างโอกาสให้กับตัวเอง มันไม่ไกลแล้วกับการที่จะคว้าชัยชนะ มันเป็นความฝันที่กำลังจะเป็นความจริง และผมหวังว่าผมจะทำให้ประเทศของผมภูมิใจกับสิ่งที่ผมทำได้ด้วย"
"ผมต้องการทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อคว้าชัยชนะในรายการยักษ์ใหญ่ซักรายการ นั่นคือเป้าหมายของผม" เจ้าของมือ 1 ของ เอเชี่ยน ทัวร์ ปี 2013 กล่าว
แจ๊ซซ์ ซึ่งมีอันดับโลกตามหลัง อาร์ม แค่อันดับเดียว ซึ่งถือว่าเขากำลังกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ของทัวร์ ที่ไปสร้างชื่อในระดับนานาชาติ และเป็นการลงหวดในศึก ดิ โอเพ่น สมัยที่ 2 ของเขา หลังจากคว้าแชมป์ เอสเอ็มบีซี สิงค์โปร์ โอเพ่น เมื่อต้นซีซั่นที่ผ่านมา
สวิงหนุ่มวัย 23 ปี จาก หัวหิน เผยว่า "การลงเล่นใน ดิ โอเพ่น เมื่อปีที่แล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่วิเศษอย่างยิ่งในชีวิตการเล่นของผม และผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้ควอลิฟายเข้าไปเล่นอีกครั้งจากชัยชนะของผมที่ สิงค์โปร์ โอเพ่น การได้รับสิทธิลงแข่งขันใน ดิ โอเพ่น คือสิ่งที่ดีที่สุด และผมก็พร้อมแล้วกับความท้าทายที่ รอยัล พอร์ตรัช"
ชัยชนะที่ 4 ในชีวิต และแชมป์ที่ 2 ของปีนี้ของ แจ๊ซซ์ ในรายการ โคลอน โคเรีย โอเพ่น ทำให้อันดับโลกของเขาไต่ขึ้นมารั้งอันดับ 52 ของโลก ซึ่งถือว่าเป็นอันดับสูงสุดในชีวิตการเล่นของเขา
นอกจากนั้นแล้ว แจ๊ซซ์ ยังทำให้โลกได้รู้จักเขากับการแข่งขัน พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังรั้งอันดับ 14 ร่วมในการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดของบรรดานักกอล์ฟไทยทั้งหมดในการแข่งขันรายการ เมเจอร์ อีกด้วย
แจ๊ซซ์ ที่ปัจจุบันเป็นผู้นำในอันดับทำเงินรางวัลสะสมของ เอเชี่ยน ทัวร์ และในศึก เจแปน กอล์ฟ ทัวร์ กล่าวว่า "ผมพยายามที่จะเล่นให้สม่ำเสมอมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในปีนี้ และยินดีอย่างมากกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับผมในตอนนี้ ผมได้ยินมาว่าสภาพสนามที่ รอยัล พอร์ตรัช เป็นสนามที่ยากมาก แต่ผมก็พร้อมแล้ว"
เช่นเดียวกับ แจ๊ซซ์ "โลมายักษ์" พรหม มีสวัสดิ สวิงจอมเก๋าจากหัวหินเช่นกัน ก็ลงเล่นใน ดิ โอเพ่น เป็นสมัยที่ 2 โดยที่เจ้าของแชมป์ เอเชี่ยน ทัวร์ 2 รายการ คว้าตั๋วไปเล่นใน ดิ โอเพ่น หลังจากคว้าอันดับ 5 ร่วมในการแข่งขัน เอสเอ็มบีซี สิงค์โปร์ โอเพ่น ซึ่งก็หวังว่าครั้งนี้เขาจะทำผลงานได้ดีที่ รอยัล พอร์ตรัช
สวิงวัย 34 ปี กล่าวว่า "มันเยี่ยมมากกับการที่ได้กลับไปที่ ดิ โอเพ่น อีกครั้งในเดือน ก.ค.นี้ มันเป็นหนที่ 2 ของผมในรายการระดับเมเจอร์ ผมยังจำได้ดีในครั้งแรกที่ผมเล่นในรายการนี้ที่ รอยัล เซนต์ จอร์จ เมื่อปี 2011 มันเป็นหนึ่งในรายการ เมเจอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และผมก็พยายามที่จะผ่านควอลิฟายให้ได้ทุกครั้งเท่าที่มีโอกาส ผมดีใจที่ในที่สุดผมก็ได้รับโอกาสไป ดิ โอเพ่น อีกครั้ง"
มาถึงน้องเล็กคนสุดท้ายอย่าง กัญจน์ เจริญกุล ที่คว้าอันดับ 2 ใน เอเชี่ยน ทัวร์ ควอลิฟายอิ้ง สคูล เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และรักษาการ์ดทัวร์ของเขาไว้ได้ และการได้ไปหวดใน ดิ โอเพ่น ก็มาจากการคว้าอันดับ 3 ร่วมในการแข่งขัน มิซูโน่ โอเพ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในสนาม ควอลิฟายอิ้ง ซีรี่ย์ส ของ ดิ โอเพ่น ใน เจแปน กอล์ฟ ทัวร์
สวิงหนุ่มจาก จ.พังงา เผยว่า "มัน เมเจอร์ แรกของผมที่จะได้ลงแข่งขัน และคงจะเป็นประสบการณ์ที่ประเมินค่าไม่ได้ ผมตื่นเต้น และแทบอดใจไม่ไหวที่จะลงเล่นที่ รอยัล พอร์ตรัช เป็นหนแรก"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น