ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
Titleist ขอแนะนำ ไดรเวอร์ TS4 รุ่นใหม่ –
ไดรเวอร์ความเร็วสูงจาก
Titleist ที่ถูกออกแบบให้สร้างสปินได้ต่ำสุดๆ
TS4 ถูกนำมาทดสอบใน PGA
Tour สัปดาห์นี้ – เริ่มต้นวางตลาดปลายเดือนมิถุนายนนี้
ขอแนะนำ ไดรเวอร์ Titleist
TS4 รุ่นใหม่ สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการ สปินที่ต่ำมากเป็นพิเศษ
อีกทั้งยัง สร้างความเร็วได้สูง และตีได้ไกลขึ้น
แบบเดียวกับประสิทธิภาพที่ทำให้ Titleist TS2
และ TS3 ถูกใช้ลงแข่งขันมากที่สุดใน PGA Tour
ฤดูกาลนี้
TS4 รุ่นใหม่ ถูกนำมาให้ผู้เล่นในทัวร์ทดสอบ
ในสัปดาห์นี้ที่การแข่งขันกอล์ฟ PGA Tour รายการ
Valero Texas Open, TS4 ถูกออกแบบให้สร้างความเร็วได้สูง
และให้สปินต่ำมากเป็นพิเศษ – ท้าทาายกับคำกล่าวที่ว่า
ไดรเวอร์ที่สร้างสปินได้ต่ำมากๆ ไม่สามารถสร้างสปินที่สูงได้แบบนี้
วางตลาดปลายเดือนมิถุนายนนี้
สำหรับการสั่งซื้อแบบคัสตอมเท่านั้น TS4
ผสมผสานเทคโนโลยี ที่ใช้ใน Titleist Speed Project
กับการย้ายตำแหน่งของจุด CG ให้อยู่ต่ำ
และค่อนมาทางด้านหน้า ทำให้สปินต่ำลงมาก
ซึ่งช่วยให้ตีได้ไกลขึ้น และวิถีลูกพุ่งอย่างทรงพลังยิ่งขึ้น
“ไดรเวอร์ TS ประสบความสำเร็จเกินความคาดหวัง
ทั้งในทัวร์ และนักกอล์ฟทั่วไปทั่วโลก”
Josh Talge, Vice President of Marketing, Titleist Golf Clubs กล่าว
“เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพที่ได้จาก TS แสดงให้เห็นว่า
ไม่ได้มีแค่หนึ่ง หรือสองแบรนด์เท่านั้นที่เป็นคู่แข่งกัน
สำหรับตลาดไดรเวอร์ในขณะนี้”
“เราทราบดีว่า นักกอล์ฟส่วนใหญ่
เหมาะสมกับไดรเวอร์ TS2 หรือ TS3 แต่ยังมีนักกอล์ฟบางส่วน
ที่ต้องการประสิทธิภาพในบางด้านที่แตกต่างออกไป
เช่น สปินที่ต้องลดต่ำลงมากๆ” Talge กล่าว
“TS4 ให้สปินที่ต่ำมากเป็นพิเศษ และยังคงให้ความเร็วลูกกอล์ฟสูงมาก
ถ้าคุณต้องการตีได้ไกลขึ้น แต่ยังมีปัญหาในการควบคุมสปินในช็อตไดร์ฟ
TS4 เป็นไดรเวอร์ที่ถูกสร้างมาสำหรับคุณ”
เทคโนโลยี & ประสิทธิภาพของ
TS4
นวัตกรรมที่ใช้ในการสร้างความเร็วลูกกอล์ฟ
ที่มีในไดรเวอร์ TS2 และ TS3 ถูกนำมาใช้ในโครงสร้างแบบ
Speed Chassis ของ TS4 ที่มีขนาด 430cc ถูกออกแบบให้ลดสปินได้มากเป็นพิเศษ
และตีได้ไกลที่สุด สำหรับนักกอล์ฟที่ตีได้สปินสูง
ในช็อตไดร์ฟ:
• ฝาด้านบน ทำจากไททาเนียม
บางเป็นพิเศษ ฝาด้านบนแบบไททาเนียมผลิตด้วยกระบวนการแคสที่บางที่สุดในวงการ
(บางกว่า ไดรเวอร์ 917 ถึง 20%) ทำให้สามารถวางน้ำหนักไว้ในตำแหน่งที่ต่ำ
และค่อนมาทางด้านหน้า เป็นผลให้ สปินต่ำลง
• หน้าไม้บางยิ่งขึ้น
และสร้างความเร็วได้สูงขึ้น หน้าไม้ที่สร้างความเร็วได้สูงที่สุด
เท่าที่ Titleist เคยมีมา – หน้าไม้ที่มีความหนาแบบไล่ระดับ
VFT (variable face thickness) ถูกปรับแต่งให้บาง และดีดตัวได้ดียิ่งขึ้น
รวมถึงน้ำหนักลดลง – สร้างความเร็วลูกกอล์ฟได้สูงขึ้น
และชดเชยความผิดพลาดสูงขึ้น ไดรเวอร์ TS
ทุกหัว ถูกทดสอบค่าการดีดของหน้าไม้แบบ
CT 100% เพื่อให้มั่นใจว่ามีประสิทธิภาพในการสร้างความเร็วสูงที่สุดตามกฎที่กำหนดไว้
• รูปทรงลู่ลม การออกแบบรูปทรงหัวไม้ให้มีคุณสมบัติทางอากาศพลศาสตร์ที่ดีของ
TS4 – รูปทรงลูกแพร์ที่คลาสสิค ขนาด 430cc –
ลดแรงต้าน ทำให้นักกอล์ฟสวิงได้เร็วขึ้น
สร้างความเร็วหัวไม้ได้สูงขึ้น และตีไกลขึ้น
• จุด CG ต่ำ และค่อนมาทางด้านหน้า:
ตำแหน่งของจุด CG ที่ต่ำ และค่อนมาทางด้านหน้า
(มาทางด้านหน้ามากกว่า TS2 5 ม.ม.) – โดยเป็นผลมาจากการวางตำแหน่งของก้อนน้ำหนัก
SureFit Flatweight – ทำให้สร้างสปินได้ต่ำมากเป็นพิเศษ
ให้วิถีลูกพุ่งอย่างทรงพลัง ที่ตรงขึ้น
และสม่ำเสมอยิ่งขึ้น
คอไม้เป็นแบบ SureFit Hosel
สิทธิบัตรของ Titleist สามารถปรับองศาหน้าไม้
และมุมไล ได้ 16 ตำแหน่ง อย่างเป็นอิสระต่อกัน
สำหรับปรับแต่งวิถีลูก ได้อย่างแม่นยำ
“สำหรับไดรเวอร์ที่ให้สปินต่ำเป็นพิเศษ
เป็นที่ทราบกันว่าต้องชดเชยด้วยค่า MOI
ที่ต่ำลง,” Talge กล่าว “แต่สำหรับนักกอล์ฟ
ที่ตีไดรเวอร์ แล้วได้สปินสูงเกินไป เพราะการตีเข้าหาลูกกอล์ฟในมุมที่ชัน
หรือนอกเข้าใน ผลลัพธ์ที่เราได้จากการทดสอบของนักกอล์ฟพบว่า
TS4 สามารถให้ระยะทางที่สม่ำเสมอมากกว่า
เมื่อเปรียบเทียบกับไดรเวอร์ที่มีค่า
MOI สูงกว่า”
ทดลอง & ทำฟิตติ้ง
โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นักกอล์ฟสามารถทดลอง
และสัมผัสถึงความเร็วของ TS2 และ TS3 โดยที่
TS4 จะเริ่มต้นนำมาให้ทดลอง และทำฟิตติ้ง
ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนนี้ ด้วยการไปที่
กิจกรรมทดลองอุปกรณ์ และทำคลับฟิตติ้งของ
Titleist (รวมถึงกิจกรรม Titleist Thursdays) และจองเวลาทำฟิตติ้งที่
Titleist National Fitting Centre คุณสามารถทำฟิตติ้งหัวไม้
TS กับผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ของTitleist
โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อที่ ไลน์ไอดี @titleistthailand จองเวลาทำฟิตติ้ง
คลิก https://www.titleist.in.th/golf-club-fitting
การวางตลาด
ไดรเวอร์ Titleist TS4 วางตลาด
สำหรับการสั่งซื้อเท่านั้น ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนนี้
องศาหน้าไม้ที่วางตลาด ได้แก่ 8.5, 9.5 (RH &
LH) และ 10.5 โดยมีราคาต่ำสุดในการโฆษณา (MAP)
ที่ 19,280 บาท
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น